สวัสดีผู้อ่านทุกๆท่านครับ เมื่อครั้งก่อนผมได้เขียนเรื่องราวของหัวหน้างานประเภทต่างๆไปแล้วในหัวข้อ "หัวหน้า...ตำแหน่งนี้ท่านได้มาอย่างไร" สำหรับคนเป็นลูกน้องใช้มองเจ้านายหรือผู้บังคับบัญชาของท่าน แต่คราวนี้ผมจะมาเล่าต่อถึงประเภทต่างๆของลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชา ในหัวข้อ "ลูกน้อง...มองผ่านนาย" เพื่อให้หัวหน้างานได้ใช้พิจารณาแยกประเภทลูกน้องของท่านดูบ้างครับ หลายๆท่านซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้างานก็ต้องเคยผ่านการเป็นลูกน้องมาบ้างไม่มากก็น้อย และอีกหลายๆท่านที่เริ่มงานด้วยการเป็นลูกน้อง จวบจนเวลาล่วงเลยผ่านจนถึงปัจจุบันก็ยังคงเป็นลูกน้องอยู่ดี (ด้วยอาจจะยังไม่มีโอกาสได้ขยับขยายหรือว่ายังไม่มีใครยอมโยกย้ายหรือล้มหายตายจากให้ตำแหน่งมันว่างลงก็ดี) แต่ในบทความที่จะนำเสนอ ณ ที่นี้ไม่ว่าคุณจะเป็นหัวหน้างานหรือลูกน้องก็ตามที เอาเป็นว่าผมอยากให้คุณๆลองอ่านบทความนี้ดูก่อน แล้วค่อยสรุปว่าตัวคุณเองเป็นลูกน้องหรือเคยเป็นลูกน้องในประเภทไหนกันบ้าง (ข้อมูลส่วนนี้ผมได้มาจากข้อเขียนของ DJ.Arsis Peter ซึ่งเขียนเอาไว้ได้เจ็บๆคันๆดีเหมือนกัน เห็นแล้วอดไม่ได้ต้องนำมาขยายความต่อ ขอขอบคุณข้อมูลดีๆไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ) เอาล่ะ..เรามาว่ากันไปเป็นข้อๆเลยครับ
1.ลูกน้องแบบซื่อๆตรงไปตรงมา ใช้ให้ทำอะไรก็ทำ ไม่เคยมีคำถามไม่มีข้อสงสัย ใช้ก็ทำไม่ใช้กรูก็ไม่ทำ ตรงไปตรงมาจริงๆครับลูกน้องแบบนี้...เฮ้อ
2.ลูกน้องแบบทำงานเอาหน้า เวลานายไม่อยู่ไม่เคยสนใจงาน แต่ต่อหน้านายทำทุกอย่างและส่วนมากมักใช้ปากทำงานไปด้วย ประจบประแจงเลียแข้งเลียขาจนเจ้านาย(บางคนนะครับ)หลงคิดว่าทำงานดี แต่หารู้ไม่ นายไม่มา ขาไม่กระดิก มือเป็นง่อย คอยงานเบา พอนายมามือไม่ว่างจับงานตลอด ลูกน้องแบบนี้ต้องดูกล้องวงจรปิดแบบไม่ให้รู้ตัว ดูซิว่าตอนนายไม่อยู่มันทำอะไร..555
3.ลูกน้องแบบมีสมองรู้จักหน้าที่ เห็นงานตรงไหนที่มันเป็นหน้าที่ ถึงนายไม่ใช้กรูก็จะทำ เพราะสามารถคิดเองได้ว่าควรทำ หรือไม่ควรทำ สามารถคิดตัดสินใจเองได้ ไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลังเจ้านาย แต่ข้อเสียคือลูกน้องแบบนี้ เจ้านายมักไม่ค่อยเห็นว่าทำงาน เพราะโดนไอ้พวกลูกน้องในข้อก่อนหน้านี้แย่งงานไปทำต่อหน้านายจนหมด มักไม่ค่อยเสนอหน้าเอาความดี ลูกน้องพวกนี้ต้องคอยดูกล้องวงจรปิดเช่นกัน ท่านจึงจะเห็นว่าเค้าทำอะไรบ้าง...
4.ลูกน้องแบบสักแต่ว่าทำไม่สนใจว่างานจะเป็นอย่างไร ทำมันไปลวกๆ แค่ขอให้ได้ชื่อว่าทำแล้ว ลูกน้องแบบนี้ ต้องได้ใช้งานซ้ำสอง ซ้ำสาม กว่าจะได้ผลงานที่ดี ลูกน้องแบบนี่มีไว้เหนื่อยใจ แต่ก้อไม่ถึงกับเสียหายมากนัก ถ้าคุณยังพอมีแรงสั่งก็สั่งต่อไปเหอะ ยกเว้นมันไม่ไหวจริงๆ...
5.ลูกน้องแบบรู้ล่วงหน้ามีญาณทิพย์ ไม่ต้องสั่งก็เ_ือกทำ ทำจนเกินหน้าที่ เอาดีเข้าตัว หวังดีไปหมดคิดบริหารงานช่วย จนถึงขนาดไปสั่งคนอื่นแทนเจ้านาย ตั้งตนเป็นหัวหน้าซะเอง ตีสนิทเจ้าน้ายให้เพื่อนร่วมงานเห็นว่าตนกับเจ้านายมีความใกล้ชิดสนิทสนม จนกล้าสั่งเพื่อนร่วมงานโดยอ้างว่าเจ้านายสั่ง ยกหางชูคอ ตีตนเสมอท่าน หันดูข้างๆบ้างสิคุณมีลูกน้องแบบนี้อยู่หรือปล่าว?...
6.ลูกน้องแบบปัดความรับผิดชอบ สั่งงานแล้วไม่ทำอ้างเหตุผลร้อยแปด ขี้เกียจทำงาน หนักไม่เอา เบาไม่สู้ แต่เงินเดือนอยากได้ดีๆ เห็นงานเดินหนี บอกว่ามีงานต้องทำ แต่ปล่าวหรอกแค่ทำตัวให้ยุ่งเข้าไว้ จะได้ไม่โดนใช้งาน ถ้ามีลูกน้องแบบนี้ทางที่ดีอย่าเลี้ยงไว้เปลืองเงินเดือนดีกว่า...
เป็นอย่างไรบ้างครับท่านหัวหน้างานทั้งหลาย นั่นเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของบรรดาลูกน้องของท่านเท่านั้น หัวหน้างานบางท่านอาจจะพบเจอมามากกว่าผมก็ช่วยกรุณาช่วยเพิ่มเติมให้ด้วยครับ ดังนั้น ท่านหัวหน้างานทั้งหลายครับ ท่านควรจะต้องรับรู้ไว้ว่าลูกน้องของท่านจัดอยู่ในประเภทใดบ้าง อย่ามัวแต่หลับหูหลับตามองเพียงแค่สิ่งที่เห็นตรงหน้า หรือฟังแต่ข้อความบอกต่อกันมา ท่านต้องลงมาดู มารับรู้ความเป็นไป และการทำงานของลูกน้องของท่านด้วยตัวท่านเองบ้าง อย่างเปิดใจและเป็นกลาง ถ้าทำได้เช่นนั้นแล้วผมเชื่อได้เลยว่า กิจการงานของท่านจะต้องสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน ด้วยการเลือกคนทำงานให้ถูกอย่าง ถูกความสามารถ ถูกหน้าที่และถูกเวลา ขอให้หัวหน้างานทุกท่านโชคดีมีลูกน้องในประเภทที่ต้องการก็แล้วกันครับ..
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก DJ.Arsis Peter
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก DJ.Arsis Peter
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.oknation.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น