นอกเหนือจากเป้าหมายและนโยบายที่ยอดเยี่ยม ร่วมกับแผนการตลาดและแผนการดำเนินงานที่ดีและการมีเทคโนโลยีหรือเครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัยในการผลิตแล้ว คงต้องยอมรับกันว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญอีกอย่างของการดำเนินธุรกิจให้ราบรื่นนั้นคือ "บุคลากร" บริษัทจะมีผลกำไรหรือไม่อย่างไรก็ขึ้นอยู่ที่ความสามารถในการดึงเอาความสามารถของบุคลากรเหล่านั้น ออกมาใช้ให้เต็มกำลังของบรรดา "ผู้บริหาร" ทั้งหลายนี่แหละครับ ถึงแม้ว่าทุกๆอย่างข้างต้นจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทั้งหมดแต่ถ้า "ผู้บริหาร" ไม่สามารถจัดการให้ "บุคลากร" เดินไปในทิศทางเดียวกันกับแนวทางของบริษัทได้แล้วล่ะก็ อนาคตของบริษัทก็คงไม่ต้องทำนายว่าจะจบลงเช่นใด แล้วผู้บริหารคือใครและมีหน้าที่ความรับผิดชอบอะไร ? เราลองมาดูกันครับ
"ผู้บริหาร" ในที่นี้หมายถึงผู้ที่มีความรับผิดชอบใหญ่ๆแบ่งออกเป็น 3 ส่วนดังนี้คือ
1. direction-ผู้บริหารคือผู้ที่มีหน้าที่ในการสร้างวิสัยทัศน์และแนวทางที่ชัดเจน
2. motivation-ผู้บริหารคือผู้ที่สามารถสร้างแรงจูงใจ
และกระตุ้นทีมงานได้
3. organization-ผู้บริหารคือผู้ที่สามารถบริหารจัดการทั้งทีมงานและควบคุมการเดินทางไปสู่ความสำเร็จได้
นอกจากนั้น"ผู้บริหาร"ยังอาจแบ่งแยกตามหน้าที่ความรับผิดชอบและขอบเขตการทำงานได้ดังนี้
1.ผู้บริหารระดับสูง หมายถึง ประธานกรรมการจนไปถึงกรรมการผู้จัดการหรืออาจเรียกว่าผู้ริเริ่มก่อตั้งองค์กรก็เป็นได้ มีหน้าที่เป็นผู้ตัดสินใจแผนการระยะยาวที่เกี่ยวกับทิศทางโดยรวมขององค์กร กำหนดวัตถุประสงค์ นโยบายและกลยุทธ์ แนะนำทางการจัดการในสิ่งต่างๆทั้งหมดที่ได้กำหนดไว้
2.ผู้บริหารระดับกลาง หมายถึง
ผู้อำนวยการ หัวหน้าศูนย์ ผู้จัดการแผนก หรือหัวหน้าสายงาน มีหน้าที่ดำเนินงานตามนโยบายและแผนงานที่ได้กำหนดไว้ ประสานงานระหว่างผู้บริหารระดับสูง
เพื่อกำหนดนโยบายให้ผู้จัดการระดับล่างได้นำแผนงานไปปฏิบัติ
3.ผู้บริหารระดับล่าง หมายถึงหัวหน้าแผนกหรือหัวหน้างาน มีหน้าที่ทำตามนโยบายที่ผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารระดับกลางกำหนดไว้ ทำการตัดสินใจระยะสั้นในการดำเนินงานช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับทีม
สร้างแรงจูงใจและสามารถรับผิดชอบแทนผู้ที่อยู่ในแผนกของตนได้
แต่บุคคลที่จะขอกล่าวถึงในบทความนี้ก็คือ ผู้บริหารระดับล่างหรือว่าระดับหัวหน้างานนั่นแหละครับ เพราะผู้บริหารระดับล่างนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับพนักงานคนหนึ่งซึ่งยังคงต้องทำงานและบริหารงานเล็กๆน้อยไปด้วย คนเหล่านี้จึงมีความใกล้ชิดกับพนักงานระดับปฏิบัติการมากกว่าผู้บริหารระดับอื่นๆ สามารถควบคุมการปฏิบัติงานได้ใกล้ชิดกว่า สามารถติดตามงานได้รวดเร็วกว่า เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจครับว่าทำไมหลายบริษัทจึงมีหัวหน้างานประเภทนี้เป็นจำนวนมาก แต่การที่จะได้มาซึ่งหัวหน้างานนั้นแต่ละบริษัทคงมีวิธีการคัดสรรด้วยวิธีการและเงื่อนไขต่างๆกัน วันนี้ผมก็จะขอพูดถึงวิธีการให้ได้มาซึ่งหัวหน้างานตามประสบการณ์ของผมที่ได้พบเห็นมาจากชีวิตการทำงานของผมในบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งคุณๆหลายคนก็อาจจะเคยประสบพบเจอด้วยตนเอง หรือว่า ณ ปัจจุบันหลายๆท่านก็ยังคงปฏิบัติงานร่วมกับหัวหน้างานที่ได้มาจากขั้นตอนการคัดสรรเหล่านี้บ้างอยู่ก็เป็นได้
1.หัวหน้างานที่ได้ตำแหน่งมาจาก วิธีการคิดและวิธีการสร้างโอกาสของเขาเอง การประจบสอพลอนายจนได้ดียังคงมีให้เห็นในทุกๆองค์กร
2.หัวหน้างานบางคนได้ตำแหน่งมาเพราะบุญหล่นทับ อาจจะด้วยสาเหตุที่หัวหน้างานคนเดิมล้มหายตายจาก หรือลาออกไป ทำให้ตำแหน่งว่างตนเองก็เลยได้ครองตำแหน่งนั้น
3.หัวหน้างานบางคนได้ตำแหน่งมาเพราะว่าความอาวุโสในการทำงาน คืออยู่มานานกว่าคนอื่นๆว่างั้นเถอะ องค์กรอาจจะเห็นว่ามีประสบการณ์ก็เลยยกให้เป็นหัวหน้า
4.หัวหน้างานบางคนได้ตำแหน่งมาด้วยอำนาจบารมีของผู้อื่นหนุนส่ง ทั้งๆที่ความจริงแล้วผลงานที่ทำไว้ก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง
5.หัวหน้างานบางคนก็ได้ตำแหน่งมาตามกำหนดวาระที่ควรได้ ไม่ต้องสนใจว่าการทำงานเป็นอย่างไร ถึงเวลาตำแหน่งก็ขยับเหมือนกับงานราชการ
6.หัวหน้างานบางคนไต่เต้าจากความสามารถในการปฏิบัติงาน พวกเขามาจากความสามารถล้วนๆใช้ระยะเวลาในการสั่งสมประสบการณ์และทักษะในการทำงานนานพอสมควร จนผู้บังคับบัญชาไว้เนื้อเชื่อใจจึงมอบหมายตำแหน่งให้
เท่าที่พอจะนึกออกก็น่าจะมีประมาณนี้ครับ แต่อย่างไรก็ตามการเลื่อนตำแหน่งหรือได้ตำแหน่งมาจาก วิธีการที่1-5ข้างต้นนั้น (ยกเว้นหัวหน้างานที่มาจากข้อ 6 แต่ทว่าการที่องค์กรจะหาบุคคลประเภทนั้นได้เป็นเรื่องที่ยากพอสมควรอาจจะมีแค่หนึ่งในร้อยก็เป็นได้) นั่นเป็นสาเหตุให้องค์กรมักจะได้หัวหน้างานที่ขาดความสามารถเสียเป็นส่วนใหญ่ และอาจส่งผลกับการทำงานในระยะยาว หากหัวหน้างานนั้นๆไม่รู้จักปรับตัวหรือปรับกลยุทธ์ใหม่ในการบริหารจัดการกับทีมของตน
ในการเลื่อนตำแหน่งหรือได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้น หัวหน้างานที่ได้รับเลือกจำเป็นจะต้องมีความสามารถในการปฏิบัติงานและมีพื้นฐานบารมีพอสมควรจึงจะสามารถนำพาทีมไปสู่ความสำเร็จได้ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือบุคคลที่เป็นผู้มีอำนาจในการคัดสรร หรือกำหนดตัวบุคคลที่จะก้าวมาเป็นหัวหน้างานได้นั้นจำเป็นจะต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล สามารถมองคนที่ตนจะมอบหมายตำแหน่งนั้นให้ออกและที่สำคัญต้องสามารถควบคุมได้ด้วยหากเกิดปัญหา
ในส่วนของผู้ที่จะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งหรือเลื่อนสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นได้นั้น ควรจะต้องมีความรู้ความเข้าใจในตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย มีความรู้ความสามารถในงานส่วนที่รับผิดชอบเป็นอย่างดี รู้จักการใช้ชีวิตบนพื้นฐานที่มีความแตกต่างหลากหลายของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างมีศิลปะ รู้จักอ่อนน้อมในสถานการณ์ที่ควรและเข็มแข็งตามสภาพสถานการณ์ที่บังคับ พูดง่ายๆก็คือต้องรู้จักเล็กให้ได้ และก็ต้องใหญ่ให้เป็น ถ้าหัวหน้างานทุกท่านทำได้แบบนี้รับรองครับว่าได้ใจทั้งเจ้านายและลูกน้อง แน่นอน สุดท้ายขอยินดีกับผู้ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่อันยิ่งใหญ่ทุกๆท่าน ขอให้มีความสุขและสนุกกับการปฏิบัติงานในทุกๆวันของการเป็นหัวหน้างานครับ...
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.linkedin.com
used ford edge titanium - Titanium Art | Titanium Art
ตอบลบUsed ford edge titanium. The main features of this titanium mens rings metal piece men\'s titanium wedding bands are a high quality glass glass panel, which is a titanium security magnetically titanium block shaped piece, $3.99 · toaks titanium In stock