เช้าวันนี้ท้องฟ้าที่ผมเห็นยังคงเป็นสีเทาหม่นๆ ด้วยมีเมฆอุ้มน้ำจำนวนมากที่พร้อมจะกลั่นตัวเป็นสายฝนได้ทุกเมื่อ คงเป็นผลพวงจากพายุโซนร้อน “จ่ามี” (TRAMI)ประกอบกับร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออกมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง(อันนี้ผมคัดลอกมาจากการพยากรณ์อากาศประจำวันของกรมอุตุนิยมวิทยาครับ) ด้วยสภาพอากาศที่เป็นใจไม่เหมาะกับการทำงานใดๆเป็นอย่างยิ่ง หลายๆคนยังคงอ้อยอิ่งอยู่บนที่นอนอันแสนอ่อนนุ่มเย็นสบาย ในขณะที่อีกหลายๆคนเร่งรีบกระวนกระวายอาบน้ำแต่งตัวด้วยหน้าที่และการงานที่บังคับทำให้ต้องรีบออกจากบ้านไปให้ถึงที่ทำงานก่อนที่ฝนจะตก คงไม่มีใครชอบแน่ๆถ้าเกิดฝนตกในระหว่างการเดินทาง ถ้าเดินทางรถมอเตอร์ไซค์แค่เปียกอาจยังไม่พอคงต้องแถมต่อด้วยสายอีกเป็นแน่แท้ การเดินทางด้วยรถโดยสารยิ่งแล้วใหญ่จะออกไปยืนรอรถยังลำบาก ไหนจะต้องขึ้นไปก็ต้องเบียดเสียดเยียดยัดกว่าจะถึงที่หมายก็คงไม่หนีสายอีกเหมือนกัน ถึงแม้ว่าคุณจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ใช่ว่าจะอุ่นใจได้ ด้วยปัญหาการจราจรที่นับวันจะติดขัดแม้ในยามที่ฝนไม่ตกเพราะจำนวนรถยนต์ส่วนตัวที่เพิ่มขึ้นทุกๆวัน ยิ่งฝนตกลงมาด้วยก็ไม่ต้องพูดถึง กว่าจะเข้าถึงที่หมายได้ถึงจะไม่เปียกแต่ก็สายเหมือนกัน สรุปว่าคงไม่มีใครอยากเดินทางในขณะที่ฝนกำลังตกแน่นอน คุณว่ามั้ย?
เมื่อคราวก่อนผมเคยเขียนเรื่อง "20 ข้อดีๆของหน้าฝนแบบขำๆ" มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่สำหรับวันนี้ผมจะเขียนถึงข้อเสีย(แบบขำๆอีกเช่นกัน)ของหน้าฝนดูบ้าง ในหัวข้อที่ว่า "ฝนมักจะตกก็ต่อเมื่อ..." ผมคิดว่าหลายๆท่านคงเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับช่วงเวลาการตกของฝน ที่ดูเหมือนจะกลั่นแกล้งกันโดยบังเอิญซะอย่างงั้น เป็นเหตุให้เกิดความหงุดหงิด สร้างความรำคาญในหัวใจอยู่บ้างไม่มากก็น้อยหละน่า คราวนี้เราลองมาดูกันสิว่า ช่วงเวลาไหนบ้างที่ "ฝน" มักจะชอบตกครับ....
1.ฝนจะตกก็ต่อเมื่อ "ออกจากบ้าน" นั่นปะไรอยู่มาได้ทั้งคืน พอตื่นมาท้องฟ้าก็มืดครึ้ม ไอ้เรารึก็อุตส่าห์รีบอาบน้ำแต่งตัว รีบออกจากบ้านก็ยังไม่ทันการณ์อยู่ดี ตกลงมายังกะฟ้ารั่วซะงั้นจะหลบลี้หนีภัยเบี้ยวงานก็ใช่ที่ วันลาก็เล่นซะหมดไปแต่หัววัน เบี้ยขยันรึก็เหลือไม่กี่วันก็จะได้แล้ว เอาก็เอาวะ !ยังไงก็ต้องฝ่าไปจะเปียกปอนอย่างไรไปถึงที่ทำงานแล้วค่อยว่ากันอีกที...เฮ้อ ชีวิตช่างโหดร้าย สายอีกละตรู
2.ฝนจะตกก็ต่อเมื่อ "เลิกงาน" อีกแล้วครับท่านอยู่มาได้ทั้งวัน ทำไม๊ ทำไมจะต้องมาตกอีตอนเลิกงาน พอเสียงออดดังปุ๊บตอกบัตรแสกนนิ้วเสร็จปั๊บ ฝนก็เทลงมาต้อนรับทันที คนมีรถยนต์ก็ดีหน่อยเลือกที่จะออกไปติดอยู่บนถนนดีกว่าต้องทนติดอยู่ที่ทำงาน บรรดาสมาชิกรถโดยสารก็อาจจะเปียกนิดหน่อยตอนออกไปยืนคอยรถ ส่วนสิงห์มอเตอร์ไซค์กับคนบ้านใกล้อาศัยการเดินนี่ไม่มีทางเลือกครับ ถ้าอยากกลับก็ต้องเลือกเปียก ไม่งั้นก็ต้องยืนเป็นยามอยู่หน้าออฟฟิศ...เฮ้อ ฝนก็ตก รถก็ติด หงุดหงิด หิวข้าวด้วย
3.ฝนจะตกก็ต่อเมื่อ "ล้างรถเสร็จใหม่ๆ" ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะตก ไม่รู้เป็นยังไงล้างรถทีไรแมร่งตกได้ทุกที ไอ้เรารึก็อุตส่าห์บรรจงล้างขัดเช็ดถูอย่างดีขับออกจากบ้านมาไม่กี่นาทีโดนฝนซะงั้น ไอ้ความสวยงามที่ปล้ำล้างมาครึ่งค่อนวันละลายหายไปกับสายฝนทันที มันน่าบ่นไหมล่ะ แต่ก็ยังดีกว่าไอ้ที่ล้างมาจากคาร์แคร์ โดนค่าล้างไปเป็นร้อยแต่เวลาหล่อช่างน้อยเหลือเกิน ล้างมาเมื่อวานเช้านี้ออกจากบ้านเจอฝนเปรอะเปื้อนเหมือนเดิม....เฮ้อ เสียเวลา เสียดายตังค์ ช่างทำกันได้
4.ฝนจะตกก็ต่อเมื่อ "ซักผ้าตากไว้" ใครจะไปรู้ล่ะก็ตอนออกบ้านก็ยังเห็นแดดเปรี้ยง ก็เลยเสี่ยงตากผ้าทิ้งไว้ กะว่าเลิกงานกลับบ้านไปก็คงเ็ก็บไปรีดได้พอดี ที่ไหนได้คล้อยหลังออกจากบ้านไปไม่กี่นาทีฝนตกลงมาเฉย หมดกันงานนี้เสียทั้งแรง ทั้งเวลาและอารมณ์ เลิกงานกลับบ้านแทนที่จะพักผ่อนสบายๆ ต้องกลับมาเก็บเสื้อผ้ามาซักตากใหม่ขืนทิ้งไว้อย่างนั้นก็เหม็นอับอีก ดูซิแทนจะได้พักผ่อนบ้าง ฝนนะฝน! มาเพิ่มงานกันซะงั้น... เฮ้อ สวรรค์ใยต้องกลั่นแกล้งกันด้วย ?
5.ฝนจะตกก็ต่อเมื่อ "ไม่ได้พกร่มไปด้วย" จะว่าก็ว่ากันเถอะ ปกตินะถ้าเห็นฝนตั้งเค้ามาทีไรก็อดไม่ได้จะต้องหยิบร่มติดมือมาทุกที ไม่อย่างนั้นก็พกติดกระเป๋าไว้ทุกวัน บางทีก็ถือซะจนเมื่อยแขนยังไม่เคยได้กางซักครั้ง แต่พอวันไหนลืมพกร่มมาด้วย จะว่าซวยหรือจะอะไรก็ตามที พอไม่มีร่ม ไม่มีที่กำบัง อยู่กลางที่โล่งนี่แหละ ตกลงมาซะเต็มที่เปียกทั้งตัวแบบนี้แล้วตรูจะไปต่อยังไงล่ะ...เฮ้อ ฝนฟ้าก็ช่างกระไร ไม่เห็นใจกันบ้างเลย
6.ฝนจะตกก็ต่อเมื่อ "ใส่ชุดใหม่วันแรก" พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ชุดใหม่ถอยมาเมื่อวานราคาล้านสี่ยังไม่ทันจะลงเครื่องซัก ตั้งใจว่าวันนี้จะใส่ไปโชว์ให้คนทั้งออฟฟิศมันอิจฉาเล่นซะก่อน แต่ที่ไหนได้ก่อนออกจากบ้านก้าวเท้าผิดข้างหรือว่าเทวดาหมั่นไส้ก็ไม่ทราบ เลยประทานฟ้าฝนมาให้ทั้งที่ไม่ต้องการซะอย่างนั้น ทั้งเสื้อผ้า หน้าผม เปียกหมดไม่เหลือ ฟ้าเอ๋ยฟ้า ใยไม่เห็นอกเห็นใจคนเห่อของใหม่บ้างเลย...เฮ้อ คิดๆแล้วแค้นสุดขีด สุดฤทธฺ์สุดเดชเลยพับผ่าสิ
7.ฝนจะตกก็ต่อเมื่อ "ออกไปธุระข้างนอก" นานๆจะมีธุระต้องออกมาข้างนอกกะเค้าซักที พักเที่ยงก็รีบออกมาแต่ทว่า คนก็ทำไมถึงได้มากมายก็ไม่รู้ ธุระที่ตั้งใจก็ยังไม่เรียบร้อย เวลาพักก็หมดไปเรื่อยๆ อาหารกลางวันก็ยังไม่ตกถึงท้อง และแล้วโชคร้ายก็มาเยือนอีกครับ อยู่ดีๆฝนก็เทลงมาเพิ่มปัญหาให้กับชีวิตเข้าไปอีกจะกลับก็ไม่ได้ จะไปต่อก็ไม่ถึง อะโหชีวิต!ใยข้าต้องมาติดฝนอยู่ที่นี่ด้วย เครียด กระวนกระวายใจแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่เหม่อมองสายฝนแล้วก็บ่นกับตัวเอง...เฮ้อ เบี้ยขยันของตรู ลอยตามน้ำไปละ
8.ฝนจะตกก็ต่อเมื่อ "ไม่อยากให้ตก" ไอ้ที่ๆเค้าอยากให้ตกก็ไม่ไปตก ชาวนาร้องทุกข์ไม่มีน้ำทำนา ชาวบ้านบ่นด่าไม่น้ำกินน้ำใช้ ก็ไม่ยักกะไปตกให้เขาบ้าง ไม่รู้เป็นอย่างไรตกได้ตกดีไอ้บริเวณที่ไม่ต้องการ ตกจนเกินความต้องการพาลจะท่วมเอาซะอีก ชาวไร่ชาวนาก็อยากให้ฝนตกลงมา พ่อค้าแม่ค้าก็ว่าไอ้ฝนบ้าจะตกมาทำไม เวลาพักผ่อนนอนหลับก็ไม่ตกเข้าไป พอออกจากบ้านทีไรจ้องจะตกทุกที ฯลฯ มันก็เป็นเช่นนี้แหละครับพี่น้อง...เฮ้อ ได้โปรดเถอะฝนจ๋า ขอเวลาฉันสักนิดนึงเหอะ
ครับ ทั้งหมดนั่นก็คือความบังเอิญแบบที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในเรื่องของฝน แต่ถ้าคุณลองสังเกตุดูดีๆก็จะเห็นว่ามันมักเกิดขึ้นจริงๆซะด้วยสิ จะด้วยความบังเอิญหรือจงใจอะไรก็ตามแต่ ที่แน่ๆมันมักจะนำมาซึ่งการเสียเวลา เสียอารมณ์ เสียเงินเสียทอง ฯล แต่ถึงแม้ว่าการที่ฝนตกโดยบังเอิญจะนำพามาซึ่งความเดือดร้อน ความวุ่นวายให้กับชีวิตของคุณบ้าง แต่อย่างไรก็ตามข้อดีของมันก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน แค่เพียงเราเปลี่ยนมุมมองนิดหน่อย เราก็จะสามารถหาความสุขจากมันได้ไม่ยาก ชีวิตก็เป็นเช่นนี้แหละครับ หากปราศจากปัญหาอุปสรรคใดๆซะบ้าง มันก็ดูจืดชืดไร้สีสันน่ะสิ คุณว่ามั้ย ?...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น