หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556

“เงิน” กับ “เวลา” คุณคิดว่าอะไรสำคัญ ?






ถ้ามีใครสักคนถามคุณว่า เงิน กับ เวลาคุณคิดว่าเรื่องใดสำคัญเป็นอันดับแรกสำหรับชีวิต ? อาจจะเป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะในความเป็นจริงเราต้องยอมรับกันว่า การที่จะได้มาซึ่งเงิน เราก็ต้องเอาเวลาไปแลกเปลี่ยนมา และบางครั้งการจะให้ได้มาซึ่งเวลา เราก็จำเป็นต้องเอาเงินไปแลกมาเหมือนกัน นั่นทำให้เห็นได้ว่าการที่เราจะบริหารทั้งเรื่องของเงินและเวลาให้ลงตัวได้มากที่สุดนั้น มันเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผู้อยู่ในสถานะมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ

เพื่อนๆของผมบางคน เลือกที่จะมีความสุขกับการอยู่ว่างๆ ไม่มีงาน ไม่มีเงินและไม่มีอะไรเช่นกัน
เพื่อนๆบางคน ก็ทำงานเพื่อให้มีกิน มีใช้แค่เดือนชนเดือนก็ยังเป็นเรื่องยาก

เพื่อนๆบางคน ยอมทำงานทั้งชีวิตเพื่อแลกกับสิ่งที่ต้องการ บ้านสักหลัง รถสักคัน ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่านั้น

เพื่อนๆบางคน มุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก เพียงเพราะพอใจกับการเห็นตัวเลขในบัญชีเงินฝากที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงมีเวลาก็ไม่คิดว่าจะใช้มัน

เพื่อนๆบางคน ดิ้นรนเป็นเจ้าของกิจการมุ่งมั่นทำงานจนถึงขั้นร่ำรวยในระดับหนึ่ง มีอำนาจการจับจ่ายได้ดั่งใจ แต่พวกเขาก็ยังถูกกักขังไว้ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบในงานที่ทำ เพื่อนๆเหล่านี้ล้วนแต่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อยได้เงินเยอะแต่มีเวลาใช้จ่ายน้อย

แต่กับเพื่อนบางคน เขาก็ไม่ได้ทำงานหนักมากหากเทียบกับคนอื่นๆข้างต้น แต่ก็จัดว่าพอมีเงินในระดับหนึ่ง แถมยังมีเวลาเพื่อที่จะใช้เงินที่หามาได้ อย่างเต็มที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกด้วย เรียกได้ว่ามีพร้อมทั้งเงินทั้งเวลา กรณีนี้ต่างหากที่เป็นเรื่องที่ผมเห็นว่าน่าสนใจ

นั่นสิ...เพราะอะไร ?

สิ่งที่ผมเห็นได้ชัดคือบุคคลประเภทนี้ เขารู้จักการใช้ทรัพย์สินหรือเงินที่มีให้ทำงานแลกเงินแทนที่ตัวเอง เขาแค่คอยดูแลและบริหารจัดการนิดๆหน่อยๆ ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องทำงาน เขายังคงต้องทำงานแต่ทำแบบสบายขึ้น หยุดได้ พักได้ ไม่ต้องทำงานเต็มเวลา แต่ทว่าทรัพย์สินเหล่านั้นก็ยังทำงานทำเงินสร้างรายได้ให้เขาอย่างสม่ำเสมอ

ผมเองก็ยอมรับว่า ผมก็อยากมีเงิน จึงต้องเอาเวลาเข้าไปแลก จนมาถึงจุดๆหนึ่ง ก็พอมีเงินสะสมบ้างนิดหน่อย ไม่ถึงกับร่ำรวยอะไรหรอกครับ แต่ความรู้สึกมันกลับบอกว่า สิ่งที่ทำอยู่ ณ ปัจจุบันมันยังไม่ใช่ ผมจะทำแบบเดิมต่อไปเรื่อยๆก็ได้ ทำงานเก็บเงินอย่างสม่ำเสมอสักวันผมอาจมีเงินมากพอ แต่กลับยังไม่รู้สึกว่ามันเป็นไปในแบบที่ต้องการ ถึงจะมีรายได้เข้ามาเรื่อยๆก็จริง แต่มันเป็นรายได้จากการที่ต้องเอาพลัง เวลา แรงกาย แรงใจ เข้าไปแลกมา เป็นงานที่ติดเงื่อนไขว่า หากเรายังทำต่อไหวก็ได้เงิน หากหยุดทำก็ไม่ได้เงิน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ลูกจ้าง พนักงานบริษัท ห้างร้านทุกท่าน ล้วนแต่อยู่ในเงื่อนไขนี้ทั้งหมด

แต่พึงระลึกไว้อย่างนะครับว่า เราไม่ควรแสวงหาวิธีที่ไม่ต้องทำงานใดๆแต่ได้เงินเยอะๆ วิธีการนั้นมันอาจมีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงก็ไม่ทราบ ที่แน่ๆคือคนเราถ้าอยากมีเงินก็ต้องทำงาน แต่จะเป็นงานอะไร ค่าตอบแทนเท่าไหร่และต้องใช้เวลานานแค่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ถึงวันนี้ผมยังคิดไม่ออก แต่สักวันผมคงคิดหาทางสร้างความสมดุลระหว่างเงินกับเวลาให้กับตัวเองจนได้ล่ะน่า...

ขอบคุณภาพประกอบจาก http://9oarahan.tistory.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น