ตอนที่ 2 : ความกลัวในใจ
ตอนที่ 2 ของ ปัญหาหลักของ มนุษย์เงินเดือน บทความๆดีๆบทความนึง ซึ่งเป็นเริ่องราวที่ต่อมาจากตอน 10 ข้อ ความแตกต่าง ระหว่าง คนรวย กับ คนชั้นกลาง กับ คนจน จากหน้าบล๊อกของคุณ Meaw-ie ผมเห็นว่าน่าสนใจดีจึงขออนุญาตินำมาแชร์ลงในบล๊อกตัวเองบ้าง เพื่อนๆลองอ่านกันดูนะครับ อ่านจบแล้วก็ลองตั้งคำถามตัวเองกันดูบ้างนะครับ...
ตอนที่ 2 ของ ปัญหาหลักของ มนุษย์เงินเดือน บทความๆดีๆบทความนึง ซึ่งเป็นเริ่องราวที่ต่อมาจากตอน 10 ข้อ ความแตกต่าง ระหว่าง คนรวย กับ คนชั้นกลาง กับ คนจน จากหน้าบล๊อกของคุณ Meaw-ie ผมเห็นว่าน่าสนใจดีจึงขออนุญาตินำมาแชร์ลงในบล๊อกตัวเองบ้าง เพื่อนๆลองอ่านกันดูนะครับ อ่านจบแล้วก็ลองตั้งคำถามตัวเองกันดูบ้างนะครับ...
มนุษย์เงินเดือน
ช้างนั้นมีพละกำลังมหาศาล ช้างสามารถโค่นต้นไม้ ทำลายบ้าน
สามารถต่อกรได้กับสัตว์ทุกชนิด แต่ท่านเชื่อไหมว่าช้างที่ถูกเลี้ยงมานั้นบางเชือกนั้นช่างแปลกนัก
เมื่อควาญช้างเอาเชือกกล้วยมาพันข้อขาข้างหนึ่งของเจ้าช้างตัวใหญ่ มันจะไม่ขยับไปไหนราวกับถูกล่ามไว้กับโซ่ตรวน
แม้ว่าเชือกกล้วยจะไม่ได้ผูกเข้ากับเสาใดๆก็ตาม ทั้งๆที่ช้างนี้มาพละกำลังมากมายนักแต่กลับจำนนต่อเชือกกล้วยธรรมดาๆ
เพราะตอนช้างมันยังเป็นเด็กเล็ก มันก็ถูกผูกไว้กับต้นไม้ เนื่องจากมันยังเด็กและยังเล็ก
มันไม่สามารถดึงเชือกให้ขาดได้ เมื่อลองแล้วมันก็จำฝังใจว่า “ฉันทำไม่ได้หรอก”
เมื่อมันโตขึ้นมันก็ยังคงมีความคิดแบบเดิม กับสิ่งเดิมๆ เมื่อใดก็ตามที่ควาญช้างเอาเชือกมาคล้องที่ขามัน
มันจะหยุดอยู่นิ่งๆ แม้ว่ามันจะโตขึ้นๆๆ ช้างมันโตขึ้น แต่ความคิดมันไม่ได้โตตาม
มันยอมโดนเชือกกล้วย “ผูก” ไว้ตั้งแต่เล็กจนโต
แม้ควาญช้างจะไม่ได้เอาปลายเชือกอีกข้างไปผูกกับต้นไม้เลยก็ตาม
พวกเราเป็นคน หรือเป็นช้างครับ ??
คนบางคนอ่อนแอและมีความเชื่อในใจต่ำกว่าช้างอีก เพราะคนบางคนยอมให้ตัวเองถูก
“ผูก” ไว้กับบางสิ่งบางอย่างที่ไม่มีตัวตน เช่นความกลัว
ความขี้เกียจ คนเรามีศักยภาพมากมาย คนเราสามารถทำสิ่งต่างๆได้เยอะแยะ
แต่เรากลับยอมให้ความกลัวมันผูกตัวเราไว้ ไม่มีใครจะช่วยแก้เชือกแห่งความกลัวที่ผูกตัวเราได้นอกจากตัวเราเอง
ในชีวิตประจำวันของเรา เรามักจะมีความกลัวมาเป็นข้ออ้างในการไม่ทำสิ่งต่างๆ เราไม่กล้าทำในสิ่งที่ดีงาม
เพราะกลัวคนอื่นหมั่นใส้
เรากลัวความล้มเหลว จึงได้แต่ทนทำงานประจำที่ไม่มีอนาคต เรากลัวความเสี่ยงจากการลงทุน
เราจึงอยู่เฉยๆให้เงินมันสูญหายไปกับเงินเฟ้อ เรากลัวการรู้จักกับคนใหม่ๆ
ชีวิตเราจึงมีแต่เพื่อนห่วยๆหน้าเดิมๆรอบตัวเต็มไปหมด เรากลัวที่จะริเริ่มสิ่งใหม่ๆ
เพราะเราดูถูกศักยภาพตัวเองว่าเราไม่เก่ง เราไม่มีโอกาสหรือเปล่า เรากลัวการเปลี่ยนแปลง
เราจึงยอมให้ชีวิตย้ำอยู่ที่เดิมเป็นปีๆ โดยหวังล้มๆแล้งๆว่าสกวันชีวิตจะดีขึ้น
ความกลัวนั้นไม่ได้มีควาญช้างคนไหนเอามันมาผูกขาเราไว้ แต่เป็นเพราะเราเองหรือเปล่าที่สร้างมันขึ้นมาทำให้เราไม่สามารถพัฒนาตัวเอง
ไม่สามารถทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เราต่างคนก็มีความกลัวทั้งสิ้น
แต่ทำไมบางคนเลือกที่จะเอามันมาผูกไว้ในชีวิต
และทำไมบางท่านถึงไม่ได้เอามันมาพันธนาการตัวเองไว้ ??
ความกลัวมนุษย์คนไหนใครก็คงมี แต่สิ่งที่ต่างกันคือความกล้า กลัวแค่ไหนก็ไม่เป็นไร
ขอเพียงเราเพิ่มความกล้าเข้าไปให้มากกว่าคนกลัว มันจะสู้ได้เอง คนที่กลัวผี
สามารถเดินฝ่าซอยมืดๆได้คนเดียวก็เพราะ “กลัวแต่สู้” เขากลัวแต่ก็กัดฟันทำ
กลัวแต่ก็ฝืนใจวิ่งให้เร็วที่สุดเพื่อจะผ่านพ้นซอยอันแสนมืดนั้นไปได้ แต่คนที่ไม่มีความกล้า
ก็คงได้แต่นั่งภาวนารอให้มีคนเดินผ่านมาเป็นเพื่อน หรือโทรเรียกใครบางคนมาช่วย
แบบนี้เรียกว่าเอาชีวิตไปฝากไว้กับคนอื่น แค่มี”ความกล้า”
คนเราก็สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองกลัวมาทั้งชีวิตได้แล้วครับ
สิ่งที่ผูกเราไว้นั้นช่างไร้สาระเสียเหลือเกิน มันช่างกระจอกยิ่งกว่าเชือกกล้วยเสียอีก
เพราะมันล้วนแต่ไม่มีตัวตนทั้งสิ้น ช้างมันยังอ้างว่ามีเชือกมาผูกขามันไว้
แต่คนเราจะอ้างถึงสิ่งใดหรือ ???
ท่านที่ชีวิตยังเหมือนเดิม ไม่ได้ไปไหนมาไหนมาหลายปี
จริงหรือไม่เพราะท่านกำลังถูกผูกไว้กับอะไรบางอย่างที่ท่านยอมแพ้มันเอง
ถ้าเป็นจริงขออวยพรให้ท่านมีความกล้าที่จะทำลายสิ่งที่ผูกท่านมานานปีครับ…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น