หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กินเที่ยวใกล้บ้าน ตลาดน้ำ 4 ภาค

"ทะเลงาม ข้าวหลามอร่อย อ้อยหวาน จักสานดี ประเพณีวิ่งควาย" นั่นคือคำขวัญประจำจังหวัดชลบุรี บ้านผมเองครับ แหล่งท่องเที่ยวใกล้ๆกรุงเทพฯอีกแห่งหนึงที่น่าสนใจ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลนักรวมถึงการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวกสบาย และที่สำคัญคือ ชลบุรี ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รวมเอาการท่องเที่ยวประเภทต่างๆที่น่าสนใจเอาไว้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ทะเล น้ำตก และเกาะแก่งต่างๆ ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวด้วยโปรแกรม 1 วันสามารถท่องเที่ยวได้เกือบทุกประเภทเลยทีเดียว ถ้าเอ่ยชื่อ ชลบุรี ทุกๆท่านคงจะนึกถึง สายลมทะเลเย็นพัดพาเอาเกลียวคลื่นซัดสาดกับหาดทรายขาว ท้องทะเลสีครามตัดกับขอบฟ้าสีฟ้าสดในตอนกลางวัน และภาพของดวงอาทิตย์ยามอัสดงค่อยๆจมลงใต้ผิวน้ำทะเลสีทองส่องประกายระยิบระยับ ช่างเป็นอะไรที่น่าประทับใจและคงอยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคนเมื่อได้มาเยือน
แต่นอกจาก  ภูเขา ทะเล น้ำตกและเกาะต่างๆแล้ว สถานที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึงของชลบุรี ที่ได้ชื่อว่าถ้าไม่ไปเยี่ยมเยือนก็เหมือนมาไม่ถึงชลบุรี แหล่งท่องเที่ยวที่ว่านั้นก็คือ พัทยา เมืองที่ไม่เคยหลับไหลอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยในจังหวัดชลบุรี ในช่วงกลางวันจะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่วนในยามค่ำคืน พัทยา ก็จะเปลี่ยนเป็นอีกโลกหนึ่งซึ่งแตกต่างจากภาคกลางวันโดยสิ้นเชิง แสง สี เสียง ผับ บาร์ ร้านค้า ผู้หญิง นักท่องเที่ยว ฯลฯ สวรรค์ของคนกลางคืนโดยแท้ เกริ่นมาซะยาว หลายๆท่านคิดว่าผมคงจะพาไปเที่ยวดูแสงสีของพัทยาในยามค่ำคืนเป็นแน่ แต่ปล่าวหรอกครับ คราวนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของเมืองพัทยาก็ว่าได้ ซึ่งจริงๆแล้วก็มีอยู่มากมายหลายแห่งด้วยกัน แต่คราวนี้ผมขอนำเสนอที่นี่ก่อนครับ "ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา" ไม่ไกล้ไม่ไกลจากบ้านผมเท่าใดนัก ว่าแล้วก็ขอเชิญเพื่อนๆตามผมมาร่วมสัมผัสกับกลิ่นอายของวันวาน วิถีชิวิตแบบไทยๆสมัยก่อน ล่องเรือถวิลหาอดีตพร้อมรับความเย็นฉ่ำของสายน้ำ หรือจะเลือกเดินสัมผัสกับวิถีชีวิตย้อนยุคแบบชิลๆก็ตามแต่ใจ แต่สำหรับวันนี้ผมจะนำเสนอในแนวพระยาน้อยชมตลาดละกัน เอาแบบว่าเรามาเดินเล่นกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ สายตาก็สอดส่องมองหาของกินอร่อยๆมาขยายกระเพาะเป็นระยะๆ ชมไปกินไปอะไรประมาณนั้น ถ้าพร้อมแล้วเดินตามมาเลยครับ
นี่คือข้อมูลคร่าวๆของ "ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา"ครับ  ตลาดน้ำสี่ภาคตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท เลยพัทยาใต้ไปทางสัตหีบประมาณ 2.5 กิโลเมตร (ฝั่งซ้ายมือ) ตรงข้ามกับจูราสสิก การ์เด้น ก่อนถึงป้ายสุดเขตเมืองพัทยา ไปไม่ถูกอย่างไรก็สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 3870 6340 หรือทางเว็บไซต์ www.floating4market.com ครับ สร้างขึ้นบนพื้นที่กว่า 23 ไร่ แต่เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่ากกขนาดใหญ่ ต่อมามีการรื้อป่ากกออกเพื่อปรับปรุงพื้นที่ จึงรู้ว่าภายใต้ป่ากกที่รกรุงรังยังมีบึงธรรมชาติขนาดใหญ่อยู่ เจ้าของที่เลยเกิดไอเดียบรรเจิดเนรมิตรบึงแห่งนี้ให้กลายมาเป็น "ตลาดน้ำ" ให้ผู้คนได้สัมผัสความเป็นไทย ๆ จึงจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไทยที่เรียบง่าย เพื่อให้ผู้คนได้เรียนรู้วิถีพอเพียงดั้งเดิมที่ผูกพันกับสายน้ำตั้งแต่อดีตสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลใน 4 ภาค ของประเทศไทย ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้  อีกทั้งยังเล็งเห็นว่าควรจะนำเอาของดีของเด่นทั้ง 4 ภาค มารวมไว้ด้วยกัน จึงกลายมาเป็น"ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา" สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แหล่งรวมศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และสินค้าต่าง ๆ ทั้ง 4 ภาคของไทยเอามารวมไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว หลังจากจอดรถที่ด้านหลัง (ด้านหน้าก็มีที่จอดแต่น้อยมาก) ไม่เสียค่าจอดแต่มีบริการผ้าคลุมกระจกราคาก็แล้วแต่จะให้ เสร็จสรรพเรียบร้อยก็เข้าสู่ด้านในกันเลยครับ


บรรยากาศภายใน "ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา" ยามสายๆในขณะที่นักท่องเที่ยวยังไม่มากนัก ทำให้เลือกมุมถ่ายรูปที่ถูกใจได้พอสมควร บริเวณริมน้ำมีการจำลองบ้านเรือนไทยแบบโบราณของแต่ละภาคเรียงรายเอาไว้ตลอดสองข้างทาง เสมือนชุมชนการค้าริมน้ำในอดีตให้เราสามารถเดินชมได้เรื่อยๆ โดยจะมีทางเดินหรือสะพานเชื่อมต่อระหว่างชุมชนของกลุ่มภาคต่างๆ และในบริเวณที่เป็นบึงน้ำก็จะมีแม่ค้า พ่อขาย พายเรือไปตามแม่น้ำเพื่อเสนอขายสินค้า ซึ่งเราก็สามารถเรียกแม่ค้า พ่อค้า ที่พายเรือผ่านไปผ่านมาเพื่อซื้อหาสินค้าได้ ซึ่งมีทั้งของกินเล่นๆจนถึงกินกันแบบจริงๆจังๆ ของที่ระลึก แม้แต่ด้านบนบกยังมีร้านค้าตั้งอยู่มากมาย มีทั้งอาหารของคาวและของหวานให้เลือกชิมเลือกซื้อหา ราคาก็อาจจะสูงนิดนึงไม่ว่ากันตามมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีสินค้าหัตถกรรมหลากหลายที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภาคให้เลือกซื้อด้วย โดยสินค้าทั้ง 4 ภาค จะแตกต่างกันออกไปตามวิถีชีวิตแต่ละภาค ภาคเหนือจะเป็นสินค้างานไม้แกะสลัก เครื่องเงิน ผ้าพื้นเมืองลวดลายงดงามวิจิตร ผ้าไหม และร่มกระดาษ สำหรับสินค้าภาคกลาง ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์หวาย เครื่องประดับ กระเป๋าสาน ภาคอีสานโดดเด่นในกลุ่มสินค้าผ้าไหมหมัดหมี่ ผ้าไหมแพรวา เทียนหอม หมอนอิง และภาคใต้สินค้าเลื่องชื่อ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ผ้าบาติก เรือไม้จำลอง เป็นต้น


สะพานแขวน จุดขายหนึ่งของที่นี่ครับ ใช้เดินข้ามจากส่วนตลาดบนบกมายังหอคอยกลางน้ำที่ใช้เป็นสถานที่โรยตัวด้วยรอกไปยังอีกด้านหนึ่งของตัวตลาด ทำจากแผ่นไม้ยึดด้วยลวดสลิง เวลาเดินไปให้ความรู้สึกยวบยาบน่าใจหาย สะพานนี้เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจรอคิวถ่ายรูปกันเยอะเหมือนกันครับ


ไม่ได้แวะมาเป็นปี วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศแจ่มใสจนใกล้ๆร้อนเอาเลยทีเดียว สภาพโดยรวมยังคงสวยงามอยู่ เสียอย่างเดียวน้ำในสระสีไม่ค่อยสวยเท่าไหร่


ถ้ากลัวว่าเดินชมจะไม่ทั่วถึง ก็ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นนั่งเรือชม"ตลาดน้ำสี่ภาค" ดูบ้างก็ได้ครับ ที่นี่มีเรือพายไว้ให้บริการ จะพายเองหรือให้เจ้าหน้าที่คอยพายให้ก็ตามสะดวก สนนราคาเพียงแค่ลำละ 200 บาทต่อลำ นั่งได้ 3-4 ท่าน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที 



อากาศร้อนๆแบบนี้ เริ่มต้นด้วยกาแฟเย็นโบราณดับร้อนกันสักแก้วก่อนดีกว่า กาแฟเข้มๆขมๆผสมกับนมข้นหวานและน้ำตาลคนให้เข้ากัน ราดลงบนน้ำแข็งเกล็ดหวานเย็นชื่นใจดีชะมัด


ต่อด้วยขนมครกหวานๆ สูตรต้นตำรับโบราณเมืองชลฯ รสชาดหวานมัน กรอบนอกนุ่มใน ข้ออควรระวัง ทุกครั้งก่อนทาน ต้องมั่นใจว่าไม่ร้อนจนเกินไป มิฉะนั้นเพดานปากอาจจะสุกตามขนมครกได้


ถัดไป ของโปรดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการบริโภคแมลงทอดเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ว่าจะเป็น ตั๊กแตน จิ้งหรีด รถด่วน แมงป่อง แมงดา และอีกสารพันที่สรรหามาทอดได้ แมลงนานาชนิดทอดกรอบๆคลุกเคล้าด้วยซอสและพริกไทย หอม กรอบ อร่อย กินเล่นเพลินๆหมดเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว


ดอกไม้สวยๆแขวนประดับไว้ตามทางเดินเป็นระยะๆ เข้าใจว่าน่าจะอยู่ในตระกูลแพงพวย กำลังออกดอกสีสวย หลากสีสัน สวรรค์ของคนชอบดอกไม้ จะแอ๊คท่าถ่ายรูปหรือเพียงแค่ชมก็ตามแต่ใจ


พักชมดอกไม้พอหายเหนื่อยแล้ว ไปขยายกระเพาะกันต่อครับกับเมนูปิ้งย่างดูบ้างครับ เริ่มด้วยเมนูเด็ดรายการนี้ หมึกย่าง หมึกตัวเล็กๆพอดีคำย่างด้วยไฟอ่อนๆพอสุก ปรุงรสด้วยซอสและเนยจนหอม ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเปรี้ยวหวานตัดด้วยรสเผ็ดเด็ดอย่าบอกใคร


ถัดไปอีกหน่อย ของอร่อยอีกรายการ หมึกไข่ย่าง คราวนี้ใช้หมึกไข่ตัวโตๆสั่งตรงจากทะเลแบบสดๆปรุงรสด้วยซอสและเนยเป็นหลักเช่นกัน จากนั้นบรรจงย่างด้วยไฟให้หอมชวนน้ำลายไหล สุกแล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด อร่อยจบแบบลงตัว


ต่อด้วยเมนูธรรมดาสามัญที่มีวางจำหน่ายทั่วไปตามร้านค้าชั้นนำ ลูกชิ้นปิ้งครับ ไม่ว่าจะเป็นลูกชิ้นหมู ปลา ไก่ เนื้อหรือเอ็น แล้วแต่ความต้องการลูกค้า ปิ้งให้ไหม้นิดหน่อยกลิ่นหอมออกมายั่วน้ำลาย จัดใส่จานราดด้วยน้ำจิ้มรสเผ็ดหวาน ทานไปเป่าไปอร่อยได้ใจสุดๆ


ยังไม่หยุดแค่นั้นจัดไปอีกสักดอก เมนูนี้ไส้กรอกย่างครับ มีทั้งไส้กรอกหมูและเนื้อ รสชาดเปรี้ยวมาก เปรี้ยวน้อย ค่อยๆเลือกเอา แม่ค้าจะหยิบไปอุ่นให้ร้อนควันฉุย หั่นเป็นชิ้นพอคำ กินแกล้มกับแตงกวา กะหล่ำปลี มีพริกขี้หนูสดกะขิงดอง ลองแล้วจะติดใจ


ต่อไปเลยครับ หอยทอดประยุกต์ในถาดขนมครก หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวโตๆเนื้อแน่น คลุกเคล้ากับแป้งที่ปรุงรสมาแล้ว ค่อยๆหยอดลงในเบ้าขนมครก พอกลิ่นหอมลอยออกมาแสดงว่าสุกเหลืองจนได้ที่แล้ว ค่อยๆแคะขึ้นมาประกบกัน ใส่ถาดโฟมราดด้วยเครื่องปรุงรส พริกไทย พริกป่น น้ำตาล น้ำปลา น้ำส้มหรือว่าซอสพริกตามถนัด สูตรใครสูตรมัน


ชมไปชิมไปจนเริ่มแน่นท้องพักกันก่อนครับ ยืนกินลมชมดอกแพงพวยสีสวยหลากสี รอให้อาหารย่อยสักหน่อยก่อน จะหามุมถ่ายรูปบนสะพานข้ามน้ำระหว่างชุมชนของภาคต่างๆก็เหมาะดี


อิ่มท้องแล้วก็ต้องมองหาของฝากกันละครับทีนี้ นี่เลย ขนมปังหมีน้อย ขนมปังแป้งนุ่มๆปั้นปะติดปะต่อกันเป็นรูปตัวหมี เขียนถ้อยคำเท่ห์ๆแนวๆไว้บนลำตัว เหมาะสำหรับเป็นของฝากแปลกแหวกแนวไม่เหมือนใคร


ส่วนที่มีค่อนข้างเยอะก็ร้านประเภทนี้ครับ ร้านขายของที่ระลึก ของเล่นเด็ก ของฝากกระจุกกระจิกต่างๆ รวมถึงร้านค้าประเภททุกอย่างยี่สิบ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นขนมอบกรอบ ขนมขบเคี้ยว ของว่างต่างๆ ข้อควรระวังคือร้านค้าเหล่านี้รับสินค้ามาจำนวนมากๆ แล้วนำมาแพคใหม่ให้ขายได้ในราคา 20 บาท มันก็เลยไม่มีวันหมดอายุให้ดู ไม่มีมาตรฐานรองรับ เวลาซื้อควรเลือกดูให้ดีครับ 


แบบนี้ดีกว่าครับ ขนมไทยชนิดต่างๆ ข้าวต้มมัด ข้าวต้มหาง ขนมตาล ขนมใส่ไส้ ฯล ใส่เรือแจวมาขาย มีให้เลือกมากมาย ไม่ต้องกังวลกับวันหมดอายุหรือไม่หมดอายุ แกะดูหรือว่าลองชิมดูก่อนเพื่อความมั่นใจ เลือกซื้อเป็นของฝากผู้หลักผู้ใหญ่เหมาะมาก หรือจะซื้อฝากตัวเองก็ไม่ว่ากัน


ผลไม้ตามฤดูกาลหรือนอกฤดูกาลก็มีจำหน่ายในเรือริมน้ำ ในภาพก็เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้สุก รสชาดหวานและหอมสุดๆ ปอกแล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำกินกับข้าวเหนียวมูลน้ำกะทิเหมาะมาก หรือว่าจะเป็นกล้วยไข่ หวีใหญ่ๆลูกโตๆรสหวานรับประทานง่ายก็น่าสนใจเหมือนกัน


เป็นไงบ้างครับ เดินไปชิมไปอิ่มท้อง อร่อยปากเลือกซื้อของฝากถูกใจ ครบรอบพอดี จริงๆแล้วที่ ตลาดน้ำสี่ภาคแห่งนี้ ยังมีจุดที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย พูดไปก็ไม่เหมือนมาดูเอง ว่างๆวันหยุดไม่รู้จะไปไหน ยังไงก็ขอให้ "ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา" เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในนั้นของเพื่อนๆละกันครับ 
และที่แนะนำอยากให้เข้าไปชมก็คือ "พิพิธภัณฑ์หนึ่งสยาม" ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมงานฝีมือ งานหัตถกรรม งานแกะสลักต่างๆไว้มากมาย หรือถ้ายังมีเวลาเหลือ ก็ขอเชิญไปร่วมย้อนรำลึกและเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ของทั้ง 4 ภาค ไม่ว่าจะเป็น การทำนาปลูกข้าว การทอผ้าไหม เรียนรู้การทำขนมไทยโบราณ ที่แปลงเกษตรสาธิตและสมุนไพรไทยก็สามารถทำได้ครับ ขณะเดียวกัน ถ้ารู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ก็สามารถหาซื้อของกินเล่นๆมานั่งรอชมการแสดงต่าง ๆ ของแต่ละภาค รวมไปถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมและร่วมสนุกได้ตลอดทั้งวันเช่นกัน 


"ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา" เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 24.00 น. แต่สำหรับวันเสาร์และอาทิตย์ จะมีการแสดงของแต่ละภาควนไปตามซุ้มต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย


ท้ายที่สุดนี้หลังจากเที่ยวชม "ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา" กันมาพอหอมปากหอมคอ เพื่อนๆคงจะพอนึกออกว่า อันที่จริงแล้วเมืองไทยของเรายังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทยอยู่อีกมากมายรอให้เราไปสัมผัส นักท่องเที่ยวจากโซนอเมริกา ยุโรป ฯล หรือแม้แต่บ้านใกล้เรือนเคียงกัยเรา อย่างจีน ญี่ปุ่น ฯล ก็ยังอุตสา่ห์ดั้นด้นเพื่อจะมาเที่ยวเมืองไทย เพราะฉะนั้นเราเองในฐานะคนไทยก็อย่าหลงลืมแหล่งท่องเที่ยวและเอกลักษณ์ของตัวเราเอง ช่วยๆกันนะครับเพื่อเมืองไทยของเรา เศรฐกิจไทยของเรา สวัสดีครับ...

ขอบคุณข้อมูลประกอบเรื่องจาก http://travel.kapook.com