ตอนที่ 1 ลืมวางเป้าหมายชีวิต
ตอนที่ 1
ของ ปัญหาหลักของ มนุษย์เงินเดือน บทความๆดีๆบทความนึง ซึ่งเป็นเริ่องราวที่ต่อมาจากตอน 10 ข้อ ความแตกต่าง ระหว่าง
คนรวย กับ คนชั้นกลาง กับ คนจน จากหน้าบล๊อกของคุณ Meaw-ie ผมเห็นว่าน่าสนใจดีจึงขออนุญาตินำมาแชร์ลงในบล๊อกตัวเองบ้าง เพื่อนๆลองอ่านกันดูนะครับ อ่านจบแล้วก็ลองตั้งคำถามตัวเองกันดูบ้างนะครับ...
มนุษย์เงินเดือน
ถ้ามองย้อนไปหลายปีก่อนในเดือนมีนาคมนี้ มันจะเป็นเดือนที่สำคัญสำหรับนิสิต-นักศึกษาหลายๆคนที่จะออกจากรั้ว
มหาวิทยาลัยมาเผชิญชีวิตจริงๆในการทำงาน มีน้องๆหลายคนมาปรึกษาผมเรื่องการหางานทำ คำถามยอดฮิตก็คงไม่พ้นคำถามเหล่านี้
1.จะทำงานอะไรดี ?
2.งานที่ไหนดี ??
3.เวลาเลือกงาน เราต้องเลือกยังไง ?
4.ทำอย่างไรจึงจะรู้ว่างานแบบไหนเหมาะกับเรา
2.งานที่ไหนดี ??
3.เวลาเลือกงาน เราต้องเลือกยังไง ?
4.ทำอย่างไรจึงจะรู้ว่างานแบบไหนเหมาะกับเรา
คำถามเหล่านี้มักจะมาจากการที่คนๆนั้น
มีทัศนคติการใช้ชีวิตประเภทมองสั้นๆหรือไม่มีการวางเป้าหมายระยะยาว ถ้าเราถามคำถามลงลึกๆเช่น
1.เราได้เป้าหมายชีวิตไว้อย่างไร
2.มีสิ่งใดที่สำคัญมากๆในชีวิตที่จะต้องทำให้ได้หรือไม่
3.มีความฝันบ้างไหม (ไม่ใช่ฝันเฟื่อง)
4.ออกแบบชีวิตไว้อย่างไร
2.มีสิ่งใดที่สำคัญมากๆในชีวิตที่จะต้องทำให้ได้หรือไม่
3.มีความฝันบ้างไหม (ไม่ใช่ฝันเฟื่อง)
4.ออกแบบชีวิตไว้อย่างไร
พวกเขามักจะไม่ได้คิดหรือตอบไม่ได้เสมอๆ ซึ่งก็ไม่แปลกครับ เพราะสังคมบ้านเราไม่ค่อยได้สอนกันให้วางเป้าหมายระยะยาว
ไม่ค่อยได้สอนให้มีฝันที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีสอนทั้งในหนังสือเรียนและมหาวิทยาลัย เพราะในรั้วโรงเรียนสอนกันแค่
เรียนให้ดี สอบเทอมหน้าให้ได้เกิดดีๆแล้วจะดีเอง ส่วนที่บ้านก็สอนคล้ายๆกัน
ให้ตั้งใจเรียน หางานดีๆ จะได้สบายตอนแก่ ต้องรอตอนแก่ถึงจะสบาย (หรือวะ ?)
มีเรื่องเล่าครับ
ชายหนุ่มเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศไทย โบก Taxi ริมถนน Taxi
จอดให้เขาขึ้นรถ พอหนุ่มนั่งลงเบาะหลัง เขาก็นั่งเฉยๆ “จะไปที่ไหนครับ ” คนขับรถถาม
“….ไม่รู้สิ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหนดี ?” ชายหนุ่มตอบ
“แล้วจะให้ผมทำยังไง ตกลงคุณต้องการเดินทางไปไหนสักที่ใช่ไหม ?” คนขับสงสัย
“ใช่ ผมต้องเดินทาง แต่ผมไม่รู้จะไปไหน” ชายหนุ่มเกาหัว
“งั้นเอาเป็นว่าพี่ขับไปเรื่อยๆก็แล้วกัน” คนขับกดปุ่มมิตเตอร์ แล้วขับรถออกไปแบบงงๆ
มิตเตอร์ก็ค่อยๆขยับค่าโดยสารที่ละ 2-3 บาทไปเรื่อยๆชายหนุ่มมองออกไปนอกหน้าตาแบบเหม่อลอย
มองดูตลาด มองดูคนหาบของ มองดูรถที่ติดยาวเหยียด
เป้าหมาย คือจุดหมายปลายทาง เปรียบได้กับปลายทางที่เราจะเดินทางไป มิเตอร์
หรือค่าโดยสาร
เหมือนเวลาและค่าใช้จ่ายที่เราต้องสูญเสียตลอดระยะเวลาในการดำเนินชีวิต ในชีวิตจริง
แม้เราจะนอนอยู่บ้านเฉยๆ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าชีวิตเราหยุดนิ่ง เรายังคงค่อยๆเดินหน้าไปสู่เวลาสุดท้ายของชีวิต
ทีละวินาที ทีละนาที ทีละวัน
คนเรามีอายุเฉลี่ยบนโลกใบนี้ 25,000 วัน ถ้าคุณอายุ 25 ปี คุณได้เดินทางมาแล้ว 9,125 วัน หรือประมาน 2 ใน 5 ของชีวิต เดินทางกันมา 9,125 วัน…ไม่ทราบว่าคุณเข้าใกล้เป้าหมายและความฝันในชีวิตหรือยังครับ
? หรือเรายังคงเป็นคนหนึ่งคนที่นั่งรถ Taxi ไปเรื่อยๆ เผาเวลาและเงินทองไปโดยไม่ได้ให้คุณค่าที่แท้จริงกับสิ่งที่สำคัญต่อชีวิต
ถ้าในชีวิตจริงเราเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าไม่คนขับ หรือคนโบกรถ
น่าจะต้องมีสักคนที่ปัญญาอ่อนแน่ๆ เพราะคงไม่มีใครที่ขึ้นแท๊กซี่ด้วยอาการไร้สาระแบบนั้น
แล้วเส้นทางชีวิตหรือเป้าหมายชีวิตของเราละ ?? เรามีกันหรือยัง ??
หรือเราอยากเป็นคนแก่คนหนึ่ง ที่มานั่งเสียดายชีวิตที่ผ่านมา
และบ่นกับตัวเองว่าเสียดายเวลาในชีวิตที่ผ่านๆมา งานที่คุณทำหรือที่คุณกำลังมองหา
ยังไม่สำคัญว่าเป้าหมายที่เราต้องการมันคืออะไร สิ่งสำคัญคือเราต้องวางเป้าหมายให้ชัดเจน
มีฝันที่มั่นคง ส่วนเส้นทางหรือวิธีการที่จะเดินทางไปนั้น……มันจะปรากฎออกมาเองโดยที่ไม่
ต้องมาถามใครว่าจะทำงานอะไร อาชีพและแนวทางชีวิตจะมาให้เราเลือกเองในวันที่เป้าหมายเราชัด
คนที่มีฝันชัดเจนว่าอยากจะเป็นนักบิน ได้ท่องเที่ยวทั้วโลก มีเงินเดือนสูงพอที่จะดูแลคนทั้งครอบครัว
เขาก็จะเตรียมพร้อมและทำทุกอย่างเพื่อจะเป็นนักบิน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพ
ติวหนังสือ ฝึกษาอังกฤษ และเฝ้าติดตามสอบทุกๆครั้งที่มีการรับสมัคร คงไม่ไปเสียเวลาไร้สาระกับการเรียนต่อ ป.โท เพราะขี้เกียจหางานหรือฆ่าเวลาไปพลางๆเพื่อจะได้วุฒิเอามาทำเท่ห์
เพราะคนที่เป้าหมายชัดเจน
จะไม่ทำอะไรอันเป็นการเสียเวลาหรือขัดขวางเส้นทางที่จะไปสู่เป้าหมาย
ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปถาม “ผมจะไปหมอชิตครับ”
“ได้เลยครับ ขึ้นมาเลย” Taxi เชิญ
“จะไปทางด่วน หรือเข้าวิภาฯไปทางปกติครับ” Taxi ถาม
“ไปทางด่วนแล้วลงตรงหมอชิตเลยครับ พอดีผมรีบ ผมไม่อยากเสียเวลา” ชายหนุ่มตอบ
“ได้เลยครับ”
ไม่รู้ว่าจะพอสะกิดใจใครบางคนที่กำลังหางานหรือใช้ชีวิตไปวันๆได้แค่ไหนนะครับ
^^
ถ้าชอบจะมาแบ่งปันอีกครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น