ตอนที่ 3 รายได้ – เวลา – ความมั่นคง
ตอนที่ 3 ของ ปัญหาหลักของ มนุษย์เงินเดือน บทความๆดีๆบทความนึง ซึ่งเป็นเริ่องราวที่ต่อมาจากตอน 10 ข้อ ความแตกต่าง ระหว่าง คนรวย กับ คนชั้นกลาง กับ คนจน จากหน้าบล๊อกของคุณ Meaw-ie ผมเห็นว่าน่าสนใจดีจึงขออนุญาตินำมาแชร์ลงในบล๊อกตัวเองบ้าง เพื่อนๆลองอ่านกันดูนะครับ อ่านจบแล้วก็ลองตั้งคำถามตัวเองกันดูบ้างนะครับ..
ตอนที่ 3 ของ ปัญหาหลักของ มนุษย์เงินเดือน บทความๆดีๆบทความนึง ซึ่งเป็นเริ่องราวที่ต่อมาจากตอน 10 ข้อ ความแตกต่าง ระหว่าง คนรวย กับ คนชั้นกลาง กับ คนจน จากหน้าบล๊อกของคุณ Meaw-ie ผมเห็นว่าน่าสนใจดีจึงขออนุญาตินำมาแชร์ลงในบล๊อกตัวเองบ้าง เพื่อนๆลองอ่านกันดูนะครับ อ่านจบแล้วก็ลองตั้งคำถามตัวเองกันดูบ้างนะครับ..
มนุษย์เงินเดือน
ผมเคยคุยสนุกๆกับเพื่อน
“อ๊อด
นายเงินเดือนตอนนี้เท่าไหร่”
“24000 บ. รวมโอทีก็สามหมื่นนิดๆ” เพื่อนที่รักตอบ ”
“ถ้าเฉลี่ยเป็นวันก็ตกวันละ 1000บ. นายสนใจลาออกมาทำงานกับเราไหม”
“ก็อยากลาออกอยู่ ทำงานโคตรหนักเลย บางสัปดาห์ไม่ได้หยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วยซ้ำ ตื่นเช้า เลิกก็ค่ำ ว่าแต่นายจะให้เงินเดือนเท่าไหร่” เพื่อนผมถาม “3 แสนต่อเดือน”
“ได้ เดี๋ยวลาออกพรุ่งนี้มาสมัครเลย ว่าแต่เป็นงานอะไร” “งานชิมเบียร์”
“ดีเลยเราชอบดื่มเบียร์ แล้วต้องทำอะไรบ้าง”
“นายต้องดื่มเบียร์วันละ 2 ลัง (24 ขวด) ทุกวัน หมุนเวียนเปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะจบโปรเจ็ค 15 ปี”
“ไม่เอาแล้ว ๆๆๆๆ อายุสั้นพอดี ให้เงินเดือนมากกว่านี้ก็ไม่เอา ไม่อยากตายไว”
“555 นายจะกังวลอะไร ได้เงินเดือนเยอะกว่าที่เดิมตั้ง 10 เท่าเลยนะ”
“แต่ถ้าอายุสั้นก็ไม่คุ้มสิ นายอย่าลืมนะว่าเวลาในชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มีเงินแต่ไม่มีเวลาก็ไม่มีประโยชน์” เพื่อนผม พูดได้คมคายเหลือเกิน
“เวลา…… นายว่าเวลาสำหรับนาย มันสำคัญจริงหรือ ?” ผมถามย้ำ
“สำคัญสิ มีเงินเยอะแค่ไหนแต่ไม่มีเวลาก็เท่านั้น นอกจากจะไม่มีเวลาใช้เงิน เผลอๆอาจจะตายเร็วเพราะทำงานหนักอีก”
“ถ้าเวลามันสำคัญขนาดนั้น ทำไมนายเอาเวลาทั้งชีวิตของนายไปให้เขาเช่าวันละ 1000 บ. ละ ?”
การเป็นพนักงานที่รับเงินเดือน หลายๆท่านจะพึงพอใจกับงานที่ท่านทำและรายได้ที่ท่านได้รับ แต่การทำงานประจำเป็นลักษณะงานที่ลูกจ้างไม่มีวันรวย เหมือนการไปปลูกต้นกล้วยบนที่ดินของคนอื่น ไม่ว่าท่านจะปลูกเก่งแค่ไหน ต้นกล้วยจะโตขึ้นและสวย สามารถออกดอกออกผลได้มากเท่าไหร่ สิ่งที่ท่านได้ก็เพียงผลกล้วย อีกจะหวีสองหวีกลับไปกินบ้างเล็กๆน้อยๆ จากการที่เจ้าของตัวจริงเขาแบ่งให้ท่าน เป็นค่าตอบแทนที่ท่านช่วยทำงานให้เขาสำเร็จ สุดท้ายต้นกล้วยต้นนั้น เราก็ไม่ได้เป็นเจ้าของ วันที่เราไม่อยู่ด้วยสาเหตใดๆก็ตาม หรือถูกไล่ออกไม่ให้ดูแลต้นกล้วยต้นนั้น เจ้าของต้นกล้วยก็คงวุ่นวายกับการหาคนมาปลูกแทนเราเพียง 1-2 วันเท่านั้น แต่เป็นเราที่ลำบากต้องหาที่ทำงานใหม่ เพราะมนุษย์เงินเดือนที่มีชีวิตผูกไว้กับเงินเดือนเป็นรายได้ทางเดียวจะ สามารถล้มละลายและหมดตัวได้ง่ายๆถ้าไม่มีเงินเดือนมาหล่อเลี้ยงชีวิตภายใน 3 เดือน ไหนจะค่ากิน ค่าอยู่ ค่าผ่อนต่างๆที่เราสร้างหนี้สินไว้
“24000 บ. รวมโอทีก็สามหมื่นนิดๆ” เพื่อนที่รักตอบ ”
“ถ้าเฉลี่ยเป็นวันก็ตกวันละ 1000บ. นายสนใจลาออกมาทำงานกับเราไหม”
“ก็อยากลาออกอยู่ ทำงานโคตรหนักเลย บางสัปดาห์ไม่ได้หยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วยซ้ำ ตื่นเช้า เลิกก็ค่ำ ว่าแต่นายจะให้เงินเดือนเท่าไหร่” เพื่อนผมถาม “3 แสนต่อเดือน”
“ได้ เดี๋ยวลาออกพรุ่งนี้มาสมัครเลย ว่าแต่เป็นงานอะไร” “งานชิมเบียร์”
“ดีเลยเราชอบดื่มเบียร์ แล้วต้องทำอะไรบ้าง”
“นายต้องดื่มเบียร์วันละ 2 ลัง (24 ขวด) ทุกวัน หมุนเวียนเปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะจบโปรเจ็ค 15 ปี”
“ไม่เอาแล้ว ๆๆๆๆ อายุสั้นพอดี ให้เงินเดือนมากกว่านี้ก็ไม่เอา ไม่อยากตายไว”
“555 นายจะกังวลอะไร ได้เงินเดือนเยอะกว่าที่เดิมตั้ง 10 เท่าเลยนะ”
“แต่ถ้าอายุสั้นก็ไม่คุ้มสิ นายอย่าลืมนะว่าเวลาในชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มีเงินแต่ไม่มีเวลาก็ไม่มีประโยชน์” เพื่อนผม พูดได้คมคายเหลือเกิน
“เวลา…… นายว่าเวลาสำหรับนาย มันสำคัญจริงหรือ ?” ผมถามย้ำ
“สำคัญสิ มีเงินเยอะแค่ไหนแต่ไม่มีเวลาก็เท่านั้น นอกจากจะไม่มีเวลาใช้เงิน เผลอๆอาจจะตายเร็วเพราะทำงานหนักอีก”
“ถ้าเวลามันสำคัญขนาดนั้น ทำไมนายเอาเวลาทั้งชีวิตของนายไปให้เขาเช่าวันละ 1000 บ. ละ ?”
การเป็นพนักงานที่รับเงินเดือน หลายๆท่านจะพึงพอใจกับงานที่ท่านทำและรายได้ที่ท่านได้รับ แต่การทำงานประจำเป็นลักษณะงานที่ลูกจ้างไม่มีวันรวย เหมือนการไปปลูกต้นกล้วยบนที่ดินของคนอื่น ไม่ว่าท่านจะปลูกเก่งแค่ไหน ต้นกล้วยจะโตขึ้นและสวย สามารถออกดอกออกผลได้มากเท่าไหร่ สิ่งที่ท่านได้ก็เพียงผลกล้วย อีกจะหวีสองหวีกลับไปกินบ้างเล็กๆน้อยๆ จากการที่เจ้าของตัวจริงเขาแบ่งให้ท่าน เป็นค่าตอบแทนที่ท่านช่วยทำงานให้เขาสำเร็จ สุดท้ายต้นกล้วยต้นนั้น เราก็ไม่ได้เป็นเจ้าของ วันที่เราไม่อยู่ด้วยสาเหตใดๆก็ตาม หรือถูกไล่ออกไม่ให้ดูแลต้นกล้วยต้นนั้น เจ้าของต้นกล้วยก็คงวุ่นวายกับการหาคนมาปลูกแทนเราเพียง 1-2 วันเท่านั้น แต่เป็นเราที่ลำบากต้องหาที่ทำงานใหม่ เพราะมนุษย์เงินเดือนที่มีชีวิตผูกไว้กับเงินเดือนเป็นรายได้ทางเดียวจะ สามารถล้มละลายและหมดตัวได้ง่ายๆถ้าไม่มีเงินเดือนมาหล่อเลี้ยงชีวิตภายใน 3 เดือน ไหนจะค่ากิน ค่าอยู่ ค่าผ่อนต่างๆที่เราสร้างหนี้สินไว้
เราทำงานประจำมานาน….ใครมั่นคงครับ ? เจ้าของบริษัทหรือเราที่มั่นคง ?
“อนาคต
นายจะเอายังไง” ผมถามเพื่อนสนิทผมที่เป็นมนุษย์เงินเดือน
“ถ้าเราอยู่ที่นี่แล้วไม่ได้
up ตำแหน่งก็คงต้องย้ายบริษัท”
“แล้วตำแหน่งที่นายอยาก
up ขึ้นไป เขารับกี่ตำแหน่ง” “น้อยว่ะ
ระดับหัวหน้าก็อาจจะแค่ 8 คน”
” 8 คนนี้ช้เวลานานแค่ไหนถึงเขาจะมายืนในตำแหน่งหัวหน้า
?”
“เกิน 7
ปี บางคน10 ปีแล้วยังไม่ได้เป็นก็มี”
หลายๆท่านมีความหวังจะได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น
เงินเดือนที่มากขึ้น
ทุกคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน
ต่างก็หวังในสิ่งนี้เหมือนๆกัน
ใครๆก็หวังที่จะมีเงินเดือนมากขึ้นจากการเพียรพยายามทำงานให้บริษัทของเขา
แต่ในความเป็นจริง
ตำแหน่งที่สูงขึ้นไป นั้นมีจำกัด ต่อให้คุณสมับติเราพร้อมแต่ถ้า ณ เวลาดังกล่าวตำแหน่งนั้นไม่ว่างก็ไม่ได้แปลว่าจะสามารถไปแทรกกันได้ง่ายๆ
โครงสร้างขององค์กรต่างๆ
จึงเป็นพีระมิด CEO มีคนเดียว
หัวหน้าต่างๆก็มีจำนวนหลัก 10 หัวหน้าแผนกย่อมๆก็ 10-50
คน พนักงานกระจุ๊บกระจิบมีเป็น100-1000 คน
ผมชอบคำพูดประโยคหนึ่งมากๆ
เขาว่า “หมอดูที่ดีที่สุดคือรุ่นพี่เรา”
ถ้าท่านอยากรู้ชีวิตของท่านในอนาคต
จงดูที่รุ่นพี่ของท่าน
ถ้าท่านๆที่ทำงานประจำ
อยากมองเห็นอนาคตอีก 5 ปีว่าชีวิตที่ทำงานท่านจะเป้นอย่างไรให้ท่านลองดูในอ๊อฟฟิต
หรือที่ทำงานของท่าน แล้วมองไปดูที่คนที่ทำงานมาก่อนท่าน 5 ปี
ว่าเขายังเป็นพนักงานระดับล่าง
หรือไปเป็นผู้บริหารแล้ว
ดูคนที่เขาทำงานมา 10 ปี
ว่าเขามีรายได้และมีเวลาในชีวิตมากขึ้นหรือเปล่า
ดูคนที่เขาทำงานมา 20 ปี
ว่าเป้นชีวิตที่เท่าอยากได้จริงๆหรือไม่
สิ่งเหล่านั้นกำลังจะเกิดขึ้นกับท่าน
เฉกเช่นเดียวกันถ้าท่านเดินตามรอยในที่ทำงานแบบนั้น
ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนจึงถูกลิขิตไว้กับงานที่เขาทำ
เขาจะสามารถใช้จ่ายได้เพียงเท่ากับรายรับที่บริษัทแบ่งมา จะมีเวลาว่างตราบที่งานการยอมให้หยุดบ้างบางครั้ง
ยอมให้เราได้เงินเดือนมากขึ้นและมีตำแหน่งที่มากขึ้น
ถ้าเราทำงานได้คุ้มกับการทำให้บริษัทเขามั่นคงมากยิ่งขึ้น ความมั่นคงจริงๆ ขึ้นอยู่กับว่าเรามีแหล่งที่มาของรายได้ที่มั่นคงจริงๆหรือเปล่า
ซึ่งในมุมมองของผมการมีเงินเดือนเป็นสิ่งที่ดี…แต่ท่านต้องทนทำไปอีกนานแค่ ไหน ??
หลายๆท่านที่คิดได้
ผมสังเกตท่านเหล่านี้จะหาทางเลือกในชีวิตไว้เสมอๆ หลายๆท่านทำมาค้าขายควบคู่กับการทำงานประจำ
เช่น ขายของในเน็ต บางท่านก็ฝึกฝนที่จะเริ่มเป็นนักลงทุน เล่นหุ้น เล่นทอง เล่นที่
บางท่านก็ลงทุนในธุรกิจเครือข่าย จนมีเงินค่าคอมมิชั่นมากกว่าเงินเดือนประจำก็มีให้เห็นเยอะ (ไม่ได้ตั้งใจจะโฆษณาให้ใครครับ
เพียงแต่เอาข้อเท็จจริงมาเล่า) บางท่านก็พยายามฝึกเรียนวิชาชีพเฉพาะด้าน
เพื่ออนาคตจะได้มีกิจการเป็นของตัวเอง เช่น ซ่อมคอมฯ ทำอาหาร สอนพิเศษ แต่หลายๆท่านที่ทำงานประจำไม่ได้คิดถึงส่วนนี้
เขาเอาเวลาไปดูซีรี่ย์ ไปเที่ยว เอาเวลาไปเผาทิ้งหรือ “ฆ่าเวลา”
ชีวิตเราไม่มีใครเหมือนกัน แต่เราสามารถเลือกได้ว่าอยากจะมีมั่นคงจริงๆหรือไม่
แต่การทำงานประจำกินเงินเดือนไปเรื่อยๆอย่างเดียว คงเป็นอะไรที่เสี่ยงมากที่สุดและหาความมั่นคงที่แท้จริงยาก….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น