"เสน่ห์" ในที่นี้ผมขอตีความหมายตามแบบของตัวเองว่า มีความน่ารัก มีแรงดึงดูดให้คนสนใจ รักใคร่ เอ็นดูและปรารถนาที่จะมอบสิ่งดีๆให้ แน่นอนครับ ว่าใครๆก็อยากเป็นคนๆนั้น คนที่เป็นที่รักที่สนใจของคนรอบข้างและคนทั่วไปด้วยกันทั้งนั้นหรือที่ภาษาแบบเราๆเรียกกันว่า "คนมีเสน่ห์" นั่นแหละครับ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยในทางปฏิบัติที่จะทำอย่างไรให้ตัวเราเองมีเสน่ห์มากขึ้น มีคนรัก มีคนสนใจมากขึ้น น้อยคนนักที่จะมีความโชคดีในเรื่องที่ว่านี้ คุณเคยสังเกตุไหมล่ะว่าทำไมถึงมีคนที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบคุณหรือว่าคนที่คุณก็รู้สึกเหมือนจะไม่ค่อยชอบเขาเช่นกัน แต่กับบางคนคุณกลับรู้สึกว่าคนๆนี้เป็นคนที่ดูดีมีเสน่ห์น่าคบหา สิ่งนั้นแหละที่เขาเรียกว่าเป็นคนมีเสน่ห์...
พอพูดขึ้นมาแบบนี้ คุณอาจจะตั้งข้อสังเกตุขึ้นมาทันทีว่า คนที่มี "เสน่ห์" ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ ดารานักแสดง นักร้องนักดนตรี คนมีชื่อเสียง คนในแวดวงชั้นสูง คนรวย ฯล ก็อาจจะถูกของคุณ แต่ว่าบุคคลประเภทนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะมีเสน่ห์ที่ว่ากันทุกคน บางคนก็มีเสน่ห์ได้เพราะอาชีพที่ทำ ฐานะความเป็นอยู่ รวมไปถึงส่วนประกอบต่างๆที่ส่งเสริมให้เขาดูดีมีเสน่ห์มากขึ้น แต่ถ้าหากปราศจากสิ่งเหล่านั้นเมื่อไหร่ความมีเสน่ห์นั้นอาจจะหมดไปก็ได้ ซึ่งความมีเสน่ห์ในกรณีนั้นจะไม่ขอกล่าวถึง แต่จะกล่าวถึงการฝึกการสร้างเสน่ห์หรือที่เราเคยได้ยินกันว่า "การบริหารเสน่ห์" ให้กับตัวเรานั่นเอง...
โดยทั่วไปหลายๆท่านอาจจะบอกว่า ความมีเสน่ห์มักจะเกิดมาพร้อมกับตัวของบุคคลๆนั้น แต่นั่นเป็นเรื่องของความเชื่อครับ ในปัจจุบันดังที่เราเห็นกันอยู่ว่ามีสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพต่างๆเกิดขึ้นมามากมาย นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเสน่ห์นั่นเอง แสดงว่าเสน่ห์เป็นสิ่งสร้างได้ไม่ต้องรอให้โชคชะตากำหนด เราสามารถสร้างมันได้ด้วยตัวของเราเอง และนี่ก็คือ "หลักในการบริหารเสน่ห์ 10 ประการ" ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆที่ใครๆก็ทำได้ลองทำดูกันครับ...
1.การจดจำชื่อบุคคล
เรื่องสำคัญอันดับแรกๆในการบริหารเสน่ห์เลยก็ว่าได้ คุณลองคิดดูสิ ถ้ามีใครมาทักคุณด้วยชื่อที่ไม่ถูกต้อง คุณจะรู้สึกอย่างไร? ความประทับใจครั้งแรกของคุณคงหมดสิ้นไปในทันที เช่นเดียวกันถ้าคุณยังจำชื่อใครต่อใครไม่ได้ หรือว่าจำผิดจำถูก มันจะแสดงออกเลยว่าคุณไม่เคยสนใจใยดี หรือเห็นความสำคัญในตัวเขา ต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าชื่อของเขาเป็นสิ่งสำคัญสิ่งแรกสำหรับความรู้สึกดีๆที่จะตามมา เพราะฉะนั้นควรจำชื่อเขาให้ได้และทักทายให้ถูกด้วยครับ
2.รู้จักทักทาย
ต่อเนื่องจากการจดจำชื่อบุคคลให้ได้ครับ เมื่อจำได้แล้วก็ต้องรู้จักชิงจังหวะทักทายก่อนด้วยสิ การที่เราสามารถทักทายใครต่อใครได้ก่อนเป็นความน่ารักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมีมิตรจิตรมิตรใจของตัวเรา ทำให้ผู้ถูกทักทายรู้สึกดี รู้สึกว่าได้รับความสนใจ รู้สึกว่ามีคนให้ความสำคัญแล้วเรื่องดีๆก็จะตามมาเองแหละน่า จะไปเสียเวลาจดจำชื่อคนอื่นให้มันปวดหัวทำไม ถ้าจำได้แล้วไม่รู้จักทักทายกัน...ว่ามะ
3.ทำตัวสบายๆไม่ต้องฟอร์มเยอะ
พยายามทำตัวตามสบายๆอยู่เสมอ (แต่ก็ไม่ใช่สบายจนเกินไป ต้องอยู่ในขอบเขตด้วยนะครับ)ผู้คนที่อยู่รอบข้างคุณจะได้ไม่รู้สึกเครียดลำบากหรืออึดอัดใจเมื่อต้องอยู่ใกล้ๆกับคุณ ความเป็นกันเอง ความไม่ถือเนื้อถือตัว ไม่เป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง จะทำให้คุณเป็นคนที่น่าสนใจและน่าอยู่ใกล้ๆครับ
4.มีนิสัยง่ายๆในบางครั้ง
นิสัยง่ายๆในที่นี้มิได้หมายถึงการทำอะไรแบบมักง่ายต้องแยกให้ออกนะครับ นิสัยง่ายๆในกรณีนี้หมายถึงการที่คุณเป็นคนแบบง่ายๆบ้าง แบบเรื่อยๆเปื่อยๆหรือเป็นประเภทอะไรก็ได้ประมาณนั้นบ้าง ซึ่งในการทำเช่นนั้นมันจะทำให้คุณรู้สึกว่าไม่มีอะไรสามารถมารบกวนใจคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือเรื่องราวอะไรที่น่ารำคาญที่สุด ในบางครั้งตัวคุณเองก็ยังอยากอยู่ใกล้ๆกับคนที่ถือสาคุณน้อยที่สุด เพราะบางครั้งคุณเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีเรื่องอะไรที่น่ารำคาญอยู่บ้าง คนอื่นๆก็เช่นกันครับ
5.โง่บ้างก็ได้
มันไม่จำเป็นหรอกครับที่คุณจะต้องรู้เรื่องอะไรต่ออะไรดีไปหมดทุกอย่าง พึงระวังการแสดงออกว่าคุณรู้ดีไปหมดเสียทุกเรื่อง ไม่มีใครอยากคบหากับคนที่คนฉลาดเกินไปหรอกครับ บางครั้งบางเรื่องคนอื่นเขาก็อยากฉลาดบ้างเหมือนกัน แม้ว่าคุณจะรู้จริงแต่ก็ต้องหัดนิ่งให้เป็นเสียบ้าง ทำตัวให้เป็นธรรมชาติ อ่อนน้อมถ่อมตนและสุภาพตามช่วงเวลาที่เหมาะสมจะดีกว่า
6.ร่าเริงเป็นนิจ
คุณเคยสังเกตุไหมว่า บุคคลที่มีความสนุกสนานร่าเริงมักจะรายล้อมไปด้วยผู้คนรอบกาย การที่คุณเป็นคนสนุกสนานร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส มีอารมณ์ดีอยู่เป็นประจำ จะทำให้เพื่อนๆและบุคคลทั้งหลายที่ได้เข้าใกล้ชิดรู้สึกมีความสุขและให้ความจริงใจในการคบหากับคุณ ถือเป็นโอกาสอันดีครับที่คุณจะได้เรียนรู้สิ่งดีๆจากคนเหล่านี้ เมื่อคบค้าสมาคมด้วยเช่นกัน
7.แก้ไขเรื่องเข้าใจผิด
ในชีวิตนึงมันก็ต้องมีบ้างที่คุณอาจจะเคยมองอะไรผิดไปเพียงเพราะการมองของคุณด้านเดียว ก็ต้องพยายามแก้ไขโดยการมองใหม่ให้ละเอียดรอบด้านขึ้น คุณเคยเข้าใจอะไรผิดๆเพราะความไม่รู้จริงหรือเคยมองใครในแง่ร้ายๆมาบ้าง เพราะเคยฝังใจกับการกระทำในครั้งก่อนของเขา หากมีเวลาคุณน่าจะต้องแก้ไขความเข้าใจที่ผิดๆนั้นหรือเลิกผูกใจเจ็บกับเรื่องราวเหล่านั้นได้เลยก็ดี ถ้าทำได้แบบนี้รับรองว่าคุณจะน่ารักขึ้นอีกเยอะ
8.เลิกได้ไหมนิสัยเสียๆ
คนเราไม่สามารถมองเห็นคิ้วของตนเองได้ฉันใด การมองหานิสัยเสียๆของตนเองก็เช่นกันครับ ในการค้นข้อเสียของคุณจึงจำเป็นต้องอาศัยการสดับรับฟังเสียงจากรอบๆข้าง ถึงเรื่องราวข้อเสียของคุณเองบ้าง เพราะว่าบางทีข้อเสียนั้นๆคุณอาจจะทำมันลงไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อทราบถึงข้อบกพร่องเหล่านั้นแล้วก็หาทางกำจัดหรือว่าแก้ไขมันซะให้หมดไป
9.หัดรักคนอื่นบ้าง
มันน่าแปลกมั้ยครับ ทีคนบางคนจะเกลียดกันได้มากมายทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นั่นเป็นเพราะว่าความรู้สึกเกลียดชังมันเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าความรัก เพราะฉะนั้นการฝึกตนเองให้รู้จักให้ความรักกับคนอื่นก่อนให้ติดเป็นนิสัย จะช่วยให้คุณสามารถคบหากับบุคคลๆนั้นได้อย่างสนิทใจ พึงท่องคาถาประจำใจไว้ว่า "ไม่เห็นมีใครที่เราไม่ชอบเลย" ให้เป็นประจำครับ
10.ชมเชยให้เป็น
ใครก็ชอบฟังคำชมเชย เพราะฉะนั้นอย่าละเลยโอกาสที่จะกล่าวคำชมเชยครับ เมื่อใครคนใดคนหนึ่งใกล้ๆกับคุณกระทำในสิ่งดีๆหรือทำสิ่งใดๆได้สำเร็จ และในขณะเดียวกันเมื่อชมเชยได้ก็ต้องรู้จักแสดงความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ร้อนและไม่สมหวังของเขาให้เป็นด้วยเช่นกันครับ
ดูง่ายๆไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะ แต่ก็นั่นแหละการจะทำให้ครบทั้งสิบข้อในคราวเดียว คงเป็นเรื่องที่ยากมาก เรามาลองเริ่มต้นจากข้อง่ายๆเช่นการจำชื่อเพื่อนๆหรือคนรู้จักให้แม่นๆแล้วเริ่มต้นทักทายเขาก่อน เมื่อทำได้แล้วค่อยขยับตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ เพียงเท่านี้อีกไม่นาน ผมเชื่อแน่ๆว่าคุณคงกลายเป็นคนที่น่ารักน่าสนใจ ใครๆก็อยากคบหาอยากรู้จัก เป็นที่รักของเพื่อนๆได้ไม่ยาก เริ่มต้นเสียแต่วันนี้เลยครับ
พอพูดขึ้นมาแบบนี้ คุณอาจจะตั้งข้อสังเกตุขึ้นมาทันทีว่า คนที่มี "เสน่ห์" ส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ ดารานักแสดง นักร้องนักดนตรี คนมีชื่อเสียง คนในแวดวงชั้นสูง คนรวย ฯล ก็อาจจะถูกของคุณ แต่ว่าบุคคลประเภทนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะมีเสน่ห์ที่ว่ากันทุกคน บางคนก็มีเสน่ห์ได้เพราะอาชีพที่ทำ ฐานะความเป็นอยู่ รวมไปถึงส่วนประกอบต่างๆที่ส่งเสริมให้เขาดูดีมีเสน่ห์มากขึ้น แต่ถ้าหากปราศจากสิ่งเหล่านั้นเมื่อไหร่ความมีเสน่ห์นั้นอาจจะหมดไปก็ได้ ซึ่งความมีเสน่ห์ในกรณีนั้นจะไม่ขอกล่าวถึง แต่จะกล่าวถึงการฝึกการสร้างเสน่ห์หรือที่เราเคยได้ยินกันว่า "การบริหารเสน่ห์" ให้กับตัวเรานั่นเอง...
โดยทั่วไปหลายๆท่านอาจจะบอกว่า ความมีเสน่ห์มักจะเกิดมาพร้อมกับตัวของบุคคลๆนั้น แต่นั่นเป็นเรื่องของความเชื่อครับ ในปัจจุบันดังที่เราเห็นกันอยู่ว่ามีสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพต่างๆเกิดขึ้นมามากมาย นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเสน่ห์นั่นเอง แสดงว่าเสน่ห์เป็นสิ่งสร้างได้ไม่ต้องรอให้โชคชะตากำหนด เราสามารถสร้างมันได้ด้วยตัวของเราเอง และนี่ก็คือ "หลักในการบริหารเสน่ห์ 10 ประการ" ซึ่งเป็นเรื่องง่ายๆที่ใครๆก็ทำได้ลองทำดูกันครับ...
1.การจดจำชื่อบุคคล
เรื่องสำคัญอันดับแรกๆในการบริหารเสน่ห์เลยก็ว่าได้ คุณลองคิดดูสิ ถ้ามีใครมาทักคุณด้วยชื่อที่ไม่ถูกต้อง คุณจะรู้สึกอย่างไร? ความประทับใจครั้งแรกของคุณคงหมดสิ้นไปในทันที เช่นเดียวกันถ้าคุณยังจำชื่อใครต่อใครไม่ได้ หรือว่าจำผิดจำถูก มันจะแสดงออกเลยว่าคุณไม่เคยสนใจใยดี หรือเห็นความสำคัญในตัวเขา ต้องพึงระลึกไว้เสมอว่าชื่อของเขาเป็นสิ่งสำคัญสิ่งแรกสำหรับความรู้สึกดีๆที่จะตามมา เพราะฉะนั้นควรจำชื่อเขาให้ได้และทักทายให้ถูกด้วยครับ
2.รู้จักทักทาย
ต่อเนื่องจากการจดจำชื่อบุคคลให้ได้ครับ เมื่อจำได้แล้วก็ต้องรู้จักชิงจังหวะทักทายก่อนด้วยสิ การที่เราสามารถทักทายใครต่อใครได้ก่อนเป็นความน่ารักอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมีมิตรจิตรมิตรใจของตัวเรา ทำให้ผู้ถูกทักทายรู้สึกดี รู้สึกว่าได้รับความสนใจ รู้สึกว่ามีคนให้ความสำคัญแล้วเรื่องดีๆก็จะตามมาเองแหละน่า จะไปเสียเวลาจดจำชื่อคนอื่นให้มันปวดหัวทำไม ถ้าจำได้แล้วไม่รู้จักทักทายกัน...ว่ามะ
3.ทำตัวสบายๆไม่ต้องฟอร์มเยอะ
พยายามทำตัวตามสบายๆอยู่เสมอ (แต่ก็ไม่ใช่สบายจนเกินไป ต้องอยู่ในขอบเขตด้วยนะครับ)ผู้คนที่อยู่รอบข้างคุณจะได้ไม่รู้สึกเครียดลำบากหรืออึดอัดใจเมื่อต้องอยู่ใกล้ๆกับคุณ ความเป็นกันเอง ความไม่ถือเนื้อถือตัว ไม่เป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง จะทำให้คุณเป็นคนที่น่าสนใจและน่าอยู่ใกล้ๆครับ
4.มีนิสัยง่ายๆในบางครั้ง
นิสัยง่ายๆในที่นี้มิได้หมายถึงการทำอะไรแบบมักง่ายต้องแยกให้ออกนะครับ นิสัยง่ายๆในกรณีนี้หมายถึงการที่คุณเป็นคนแบบง่ายๆบ้าง แบบเรื่อยๆเปื่อยๆหรือเป็นประเภทอะไรก็ได้ประมาณนั้นบ้าง ซึ่งในการทำเช่นนั้นมันจะทำให้คุณรู้สึกว่าไม่มีอะไรสามารถมารบกวนใจคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือเรื่องราวอะไรที่น่ารำคาญที่สุด ในบางครั้งตัวคุณเองก็ยังอยากอยู่ใกล้ๆกับคนที่ถือสาคุณน้อยที่สุด เพราะบางครั้งคุณเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีเรื่องอะไรที่น่ารำคาญอยู่บ้าง คนอื่นๆก็เช่นกันครับ
5.โง่บ้างก็ได้
มันไม่จำเป็นหรอกครับที่คุณจะต้องรู้เรื่องอะไรต่ออะไรดีไปหมดทุกอย่าง พึงระวังการแสดงออกว่าคุณรู้ดีไปหมดเสียทุกเรื่อง ไม่มีใครอยากคบหากับคนที่คนฉลาดเกินไปหรอกครับ บางครั้งบางเรื่องคนอื่นเขาก็อยากฉลาดบ้างเหมือนกัน แม้ว่าคุณจะรู้จริงแต่ก็ต้องหัดนิ่งให้เป็นเสียบ้าง ทำตัวให้เป็นธรรมชาติ อ่อนน้อมถ่อมตนและสุภาพตามช่วงเวลาที่เหมาะสมจะดีกว่า
6.ร่าเริงเป็นนิจ
คุณเคยสังเกตุไหมว่า บุคคลที่มีความสนุกสนานร่าเริงมักจะรายล้อมไปด้วยผู้คนรอบกาย การที่คุณเป็นคนสนุกสนานร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใส มีอารมณ์ดีอยู่เป็นประจำ จะทำให้เพื่อนๆและบุคคลทั้งหลายที่ได้เข้าใกล้ชิดรู้สึกมีความสุขและให้ความจริงใจในการคบหากับคุณ ถือเป็นโอกาสอันดีครับที่คุณจะได้เรียนรู้สิ่งดีๆจากคนเหล่านี้ เมื่อคบค้าสมาคมด้วยเช่นกัน
7.แก้ไขเรื่องเข้าใจผิด
ในชีวิตนึงมันก็ต้องมีบ้างที่คุณอาจจะเคยมองอะไรผิดไปเพียงเพราะการมองของคุณด้านเดียว ก็ต้องพยายามแก้ไขโดยการมองใหม่ให้ละเอียดรอบด้านขึ้น คุณเคยเข้าใจอะไรผิดๆเพราะความไม่รู้จริงหรือเคยมองใครในแง่ร้ายๆมาบ้าง เพราะเคยฝังใจกับการกระทำในครั้งก่อนของเขา หากมีเวลาคุณน่าจะต้องแก้ไขความเข้าใจที่ผิดๆนั้นหรือเลิกผูกใจเจ็บกับเรื่องราวเหล่านั้นได้เลยก็ดี ถ้าทำได้แบบนี้รับรองว่าคุณจะน่ารักขึ้นอีกเยอะ
8.เลิกได้ไหมนิสัยเสียๆ
คนเราไม่สามารถมองเห็นคิ้วของตนเองได้ฉันใด การมองหานิสัยเสียๆของตนเองก็เช่นกันครับ ในการค้นข้อเสียของคุณจึงจำเป็นต้องอาศัยการสดับรับฟังเสียงจากรอบๆข้าง ถึงเรื่องราวข้อเสียของคุณเองบ้าง เพราะว่าบางทีข้อเสียนั้นๆคุณอาจจะทำมันลงไปโดยไม่รู้ตัว เมื่อทราบถึงข้อบกพร่องเหล่านั้นแล้วก็หาทางกำจัดหรือว่าแก้ไขมันซะให้หมดไป
9.หัดรักคนอื่นบ้าง
มันน่าแปลกมั้ยครับ ทีคนบางคนจะเกลียดกันได้มากมายทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน นั่นเป็นเพราะว่าความรู้สึกเกลียดชังมันเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าความรัก เพราะฉะนั้นการฝึกตนเองให้รู้จักให้ความรักกับคนอื่นก่อนให้ติดเป็นนิสัย จะช่วยให้คุณสามารถคบหากับบุคคลๆนั้นได้อย่างสนิทใจ พึงท่องคาถาประจำใจไว้ว่า "ไม่เห็นมีใครที่เราไม่ชอบเลย" ให้เป็นประจำครับ
10.ชมเชยให้เป็น
ใครก็ชอบฟังคำชมเชย เพราะฉะนั้นอย่าละเลยโอกาสที่จะกล่าวคำชมเชยครับ เมื่อใครคนใดคนหนึ่งใกล้ๆกับคุณกระทำในสิ่งดีๆหรือทำสิ่งใดๆได้สำเร็จ และในขณะเดียวกันเมื่อชมเชยได้ก็ต้องรู้จักแสดงความเห็นอกเห็นใจในความทุกข์ร้อนและไม่สมหวังของเขาให้เป็นด้วยเช่นกันครับ
ดูง่ายๆไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะ แต่ก็นั่นแหละการจะทำให้ครบทั้งสิบข้อในคราวเดียว คงเป็นเรื่องที่ยากมาก เรามาลองเริ่มต้นจากข้อง่ายๆเช่นการจำชื่อเพื่อนๆหรือคนรู้จักให้แม่นๆแล้วเริ่มต้นทักทายเขาก่อน เมื่อทำได้แล้วค่อยขยับตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ เพียงเท่านี้อีกไม่นาน ผมเชื่อแน่ๆว่าคุณคงกลายเป็นคนที่น่ารักน่าสนใจ ใครๆก็อยากคบหาอยากรู้จัก เป็นที่รักของเพื่อนๆได้ไม่ยาก เริ่มต้นเสียแต่วันนี้เลยครับ
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.yoohhoo.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น