สวัสดีครับ เพื่อนๆนักอ่านทุกๆท่านหลังจากเมื่อคราวที่แล้ว ผมพาเพื่อนๆไปหาของกินขยายกระเพาะกันที่ "ตลาดน้ำสี่ภาค พัทยา"มาแล้ว วันหยุดอาทิตย์นี้ เรามาชิลกันต่อครับที่สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิป อีกแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา เพิ่งเปิดทำการได้ไม่นานเมื่อวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ 2556 นี้เอง สถานที่ที่ว่านั้นก็คือ"มิโมซ่า" (Mimosa) เมืองแห่งความรักครับ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่สไตล์เมืองนอก ซึ่งจำลองมาจาก COLMAR หมู่บ้านในเมือง Alsace ของฝรั่งเศส เป็นเมืองเก่าเล็กๆ สีสันสวยงามสดใส ก็เลยยกมาตั้งไว้เป็นแหล่งเที่ยวพัทยาซะเลย "มิโมซ่า พัทยา" ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงแรมแอมบาสเดอร์ นาจอมเทียน ติดริมถนนสุขุมวิท จังหวัดชลบุรี (ที่เห็นอยู่ด้านตรงข้ามในภาพนั่นแหละครับ) ไม่ต้องกลัวหลงหาง่ายมากๆ มาถึงแล้วก่อนอื่นหาที่จอดรถกันก่อนครับ เลี้ยวซ้ายเข้าไปที่จอดรถด้านหลังค่อนข้างกว้างขวาง สามารถจอดได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถบัสโดยสารขนาดใหญ่สำหรับผู้ที่มาเป็นหมู่คณะ แต่ว่าถ้ามาก่อนก็จะดีกว่า ยิ่งมาช้าก็ยิ่งเดินไกลครับ วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนพอสมควรแต่ท้องฟ้าปลอดโปร่งดีทีเดียว หลังจากหาที่จอดรถเรียบร้อยเตรียมตัวเข้าสู่ด้านในกันเลยครับ และนี่เป็นอัตราค่าเข้าชมครับ (จะเริ่มเก็บค่าเข้าชมตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2556)
- ชาวไทย /ชาวต่างชาติที่พำนักในไทย หรือมีคู่สมรสกับชาวไทย ราคาบัตรต่อท่าน 50 บาท
- เด็กสูงน้อยกว่า 90 เซ็นติเมตร ฟรี
- เด็กสูงน้อยกว่า 120 เซ็นติเมตร ครึ่งราคา
- นักเรียน นักศึกษา ในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ ฟรี (แสดงบัตร)
- ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฟรี
- ผู้พิการทุพพลภาพ ทุกกรณี ฟรี
และนี่ก็คือข้อมูลทั่วไปของ Mimosa Pattaya ครับ
- เปิดให้บริการ : 11.00 – 23.00 น. ทุกวัน สามารถพาสุนัขเข้าไปได้
- โชว์การแสดง : 19.00 น, 20.00 น. ทุกวัน
- ถ่ายรูป Prewedding : ยังไม่เปิดให้บริการ แต่คาดว่าจะมีในอนาคต
หลังจากซื้อบัตรผ่านประตูเข้ามาเรียบร้อย พอเดินเข้ามาด้านใน ไม่ว่าจะเหลียวไปทางด้านซ้าย ขวาหรือด้านหน้า็ก็ดี เราก็จะพบกับสิ่งก่อสร้างสีสันสดใส ซึ่งถูกจัดให้เป็นร้านค้า ร้านอาหารชื่อดังๆ ร้านขายขนมของกินเล่นและร้านขายของที่ระลึกเรียงรายอยู่บริเวณสองข้างทางเดิน ก่อนอื่นเรามาดูข้อมุลคร่าวๆของ มิโมซ่า กันก่อนครับ มิโมซ่ามีพื้นที่ 38.5 ไร่ ใช้งบประมาณการก่อสร้างกว่า 1,000 ล้านบาท สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ไม่ตำกว่า 10,000 คน/วัน บริหารงานโดยคุณจิรโชติ แก้วเสถียร ในขั้นตอนการออกแบบนั้นได้มีทีมงานและผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรมท้องถิ่นชาวฝรั่งเศส เดินทางไปที่เมือง Colmar ประเทศฝรั่งเศสเพื่อเก็บรายละเอียดก่อนที่จะลงมือสร้าง Mimosa เพื่อให้เสมือนจริงมากที่สุด คำว่า Mimosa (มิโมซา) เป็นภาษาอิตาลี แปลว่าความรัก ความสุข สนุกสนาน
ตัวตลกโบโซ่ แต่งกายและแต่งหน้าด้วยสีสันฉูดฉาด เจ้าชายและเจ้าหญิงแต่งตัวสวยงามเหมือนอยู่ในเทพนิยายเดินไปเดินมาอยู่ในระหว่างทางเดิน เพื่อรอให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก แต่ดูท่าแล้วโบโซ่หนุ่มสองคนที่เห็นในภาพจะเป็นที่ชื่นชมของเด็กๆมากเดียว เพราะมีคิวต่อแถวรอถ่ายรูปยาวเหยียด
ผมเข้ามาจากด้านข้าง แต่ว่าอยากได้รูปป้าย"มิโมซ่า"ด้านหน้าก็เลยต้องเดินมาออกประตูด้านหน้าอีกที อ้อ!เก็บหางบัตรตอนเข้ามาไว้ให้ดีครับ มันมีประโยชน์ตอนเข้าๆออกๆนี่แหละ มาถึงแล้วนี่ไง "มิโมซ่า" ตัวเป็นๆ อากาศร้อนได้ใจก็เลยได้ป้ายแบบโล่งอย่างที่ใจอยากพอดี
หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจ ก็ต้องย้อนกลับเข้าไปใหม่แต่คนละทาง หางบัตรเหมือนเดิมครับจะเข้าจะออกกี่เที่ยวก็ได้ เข้ามาด้านในส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านค้า ที่เห็นเป็นร้านขายเสื้อผ้าหน้าร้านก็มีตุ๊กตาทองเหลืองขนาดเท่าจริงตั้งไว้ให้ถ่ายรูป นี่ถ้าอากาศเย็นกว่านี้หน่อยนะจะดีมากทีเดียว
ม้าทองเหลืองครับ ยืนถ่ายใกล้ๆได้ แต่นั่งถ่ายไม่ได้เพราะม้ายืนตากแดดตอนเที่ยงๆมานาน บนอานม้ากำลังร้อนได้ที่ สงสัยว่ามจะมาผิดเวลา เดี๋ยวคราวหน้ามารีวิวตอนเย็นๆบ้างดีกว่า
เจ้าตัวนี้กวางแน่ๆครับแต่ไม่รู้ว่าชื่ออะไร ยืนเด่นเป็นสง่ารอต้อนรับผู้มาเยือน อยู่ด้านหน้าอาคารสองชั้นก่อนถึงลานน้ำพุดนตรี อาคารด้านล่างส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารส่วนด้านบนก็เป็นร้านขายของที่ระลึกและเสื้อผ้า ของเด็กเล่น ฯล
ประติมากรรมสวยๆ ถูกจัดวางไว้ทั่วบริเวณ เพื่อให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันให้จุใจ แต่ปัญหาก็คือมันเป็นสีขาวนี่แหละครับ เจอแดดตอนเที่ยงๆเลยดูไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
สองตัวนี้คงจะเป็นหงส์หรืออะไรก็ไม่แน่ใจครับ ตัวโตพอสมควร ผมแอบถ่ายมาจากด้านข้างเพราะมีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปอยู่ด้านหน้า ผมคิดว่าถ้าเราไปยืนถ่ายรูปหน้าตรงนะ มันคงจะเป็นรูปหัวใจพอดี
กังหันลมจำลอง ด้านหน้าตัวอาคารสีเหลืองแดงตัดกับท้องฟ้าสีสดใส รวมถึงดอกไม้สวยๆด้านล่าง จึงเป็นอีกมุมหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจถ่ายรูปมากพอสมควร
ประติมากรรมนี้ตั้งอยู่บริเวณทางเดินไปห้องน้ำและศูนย์อาหาร จริงๆแล้วที่นี่มีประติมากรรมสวยๆแบบนี้ตั้งอยู่ทั่วบริเวณครับ น่าเสียดายที่ผมมาถึงตอนใกล้เที่ยงแล้ว แสงมันเลยแข็งๆแถมมีเงามาก ก็เลยได้รูปถ่ายไม่ค่อยถูกใจนัก
นี่ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีผู้สนใจถ่ายรูปหนาแน่น วิธีการโดยการไปยืนแอบด้านหลังแล้วโผล่หน้าออกมาทางรูปหัวใจนั่นแหละ แต่ผมไม่กล้าถ่าย บ่องตงอายครับ 555 ส่วนด้านหลังที่เห็นเป็นส่วนที่ำกำลังก่อสร้างเพิ่มเติม ดูจากสภาพการก่อสร้างแล้วน่าจะเป็นโซนสวนน้ำอะไรประมาณนั้นครับ
เดินมานาน ร้อนก็ร้อนเลยเที่ยงมานานพอสมควร พักทานอาหารกันก่อนดีกว่า ทีแรกคิดว่าจะตามรอยไฮโซให้ได้ทุกกระบวนท่า แต่ว่าวันนี้มางบน้อยครับเลยขอเป็นแบบเบาๆละกัน ศูนย์อาหารของที่นี่ก็คงพอใช้ได้ ดูแล้วก็สะอาดดีและราคาก็พอรับได้
จานแรกเรียกน้ำย่อยกันก่อน ยำวุ้นเส้น ดูหน้าตาหน้ากินพอตักเข้าปากรสชาดก็ใช้ได้นะ เปรี้ยวหวานเผ็ดกลมกล่อมกำลังดี (หรือว่าหิวหว่า)
จานด่วนตามมาติดๆแบบสิ้นคิดนิดหน่อยแต่ก็อร่อยดีนะ กะเพราไก่ไข่ไม่มี ผัดเผ็ดๆเสร็จใหม่ๆกับข้าวสวยร้อนๆ เติมน้ำปลาพริกนิดหน่อย อร่อยครบสูตร
ท้ายที่สุดก็ต้องมีของหวานด้วยจะได้ครบองค์ประขุม ข้าวเหนียวมะม่วงครับ ข้าวเหนียวนุ่มๆหอมกลิ่นใบเตยคู่กับมะม่วงน้ำดอกไม้รสชาดหวานหอมราดด้วยน้ำกะทิสดรสออกเค็มนิดหน่อย อร่อยครบเครื่องอีกเช่นกัน
อิ่มอร่อยถ้วนหน้าในราคาสบายกระเป๋า เบาตัวแต่หนักท้องแล้ว ไปย่อยอาหารกันต่อดีกว่า ออกจากด้านหน้าศูนย์อาหารมานิดหน่อย เจออีกแล้วครับรูปปั้นสวยๆชื่ออะไรใครรู้ช่วยบอกที แต่ว่ามีหลายคนแอบไปจับไข่ถ่ายรูป 555
หอนาฬิกาปองดูเช่ร์สีสันสดใสตัดกับท้องฟ้าสีสวย รู้สึกว่าจะปรับตั้งเวลาตามฝรั่งเศสมั้งครับ เพราะดูเวลาแล้วมันเพิ่งเก้าโมงเองหรือว่านาฬิกาเสียก็ไม่รู้
ประติมากรรมที่ตั้งอยู่ด้านล่างของหอนาฬิกา ที่บรรดาหนุ่มๆให้ความสนใจถ่ายรูปเป็นพิเศษ สังเกตุดูตรงหน้าอกสิครับ เงาแว๊บเชียว 555
ถัดมาอีกหน่อยดูลักษณะคล้ายๆคลองครับ สองข้างมีต้นไม้สีเขียวดูแล้วสดชื่นสบายตาแต่รู้สึกว่าน้ำในคลองมันจะออกเขียวๆหน่อยแล้วคงเป็นเพราะอากาศที่ค่อนข้างร้อนนั่นเอง
พอเดินมาอีกหน่อยถึงได้เห็นเจ้าสองตัวนี่เอง เจ้าของคลองน้ำที่ว่า หงส์ขาว กำลังว่ายน้ำเล่นอย่างสบายใจเลยทีเดียว ที่เห็นอยู่ไกลๆนั่นเป็นบรรดาหงส์น้อยๆและหงส์ดำอีกตัวหนึ่งกำลังอาบแดดสบายใจเฉิบเช่นเดียวกัน
มองย้อนกลับไปทางหอนาฬิกา ทั้งส่วนด้านล่างและด้านบนล้วนแต่เป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ด้านบนบางส่วนดูแล้วคล้ายๆว่าน่าจะเหมือนส่วนพักอาศัย ด้านล่างเป็นแปลงดอกไม้สวย ส่วนใหญ่ก็เป็นดอกกุหลาบครับ ทั้งตูมทั้งบานเต็มไปหมด
พิซซ่า เรสเตอรองบาร์ ถัดจากบ้านพักของครอบครัวหงส์ สีสันสดใสกับบรรยากาศสบายๆ แต่ผมว่าดูแล้วกว่าจะนั่งชิลได้น่าจะเป็นช่วงบ่ายถึงเย็นโน่นแหละเหมาะที่สุด
เวทีน้ำพุดนตรี มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ในตอนกลางคืนเวลา 19.00 น และ 20.00 น. ของทุกวัน จะมีการแสดงให้ชมฟรี โดยจะสลับหมุนเวียนโชว์ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ส่วนด้านหลังก็เป็นศูนย์รวมความบันเทิงของที่นี่ครับ
ม้านั่งสีสันสดใสถูกจัดวางเรียงรายไว้รอบๆลานน้ำพุ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อน หรือจะหาซื้ออะไรมานั่งทานสบายๆระหว่างรอชมการแสดง
ส่วนของอาคารด้านบน ด้านหน้าของลานน้ำพุดนตรี ถูกจัดเป็นทางเดินให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมได้รอบๆ สีสันสดใสตัดกับท้องฟ้าลายเกล็ดปลาของวันนี้สวยงามได้ใจ
อีกมุมหนึ่งเมื่อมองจากทางเดินด้านบนลงไปยังลานน้ำพุดนตรีด้านล่าง บริเวณม้านั่งเริ่มมีนักท่องเที่ยวบางส่วนเข้ามานั่งจับจองที่นั่งกันหนาตาขึ้น คิดว่าคงเป็นเพราะอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายขึ้นบ้างแล้ว
อีกมุมครับกับวันหยุดสบายๆ มาถึงตอนนี้บ่ายแก่ๆแล้วด้านบนลมพัดเย็นสบาย อากาศเริ่มเย็นลงนิดหน่อย ตัวอาคารสีสดตัดกับท้องฟ้าสีฟ้ามองแล้วสบายตาบอกไม่ถูก
วนไปวนมาสุดทางครบรอบแล้วครับวันนี้ เราใช้เวลาที่นี่กันมาพอสมควร เป็นอย่างไรบ้างครับเกือบทุกซอกทุกมุมที่ผมพามาเที่ยวชม น่าสนใจมั้ย ถ้าเพื่อนๆมีเวลาว่างๆ ในวันหยูดแม้เพียงแค่วันอาทิตย์วันเดียว ผมก็ขอเชิญชวนเลยแล้วกันครับ "มิโมซ่า พัทยา" ดินแดนแห่งความรัก แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิปแห่งใหม่ใกล้ๆกรุงเทพฯ เดินทางไปกลับสบายๆ ค่าใช้จ่ายไม่สูง ท่องเที่ยวได้หลายรูปแบบตามใจ และที่สำคัญที่นี่ยังใหม่มากๆและในอนาคตหากส่วนเพิ่มเติมเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ มิโมซ่า พัทยา คงเป็นสถานที่อีกที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายคงไม่อาจมองข้ามได้แน่ๆ
ท้ายที่สุดนี้ผมก็ขอสรุปโดยรวมอีกทีแล้วกันครับ "มิโมซ่าพัทยา" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในย่านพัทยาซึ่งจำลองบรรยากาศเมือง Colmar ของประเทศฝรั่งเศส มีร้านค้าให้ชอปปิ้ง และร้านอาหารให้เลือกทานหลายร้าน มีมุมสวยๆมากมายให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป คล้ายๆกับปาลิโอเขาใหญ่หรือว่าเวเนเซียหัวหินประมาณนั้น "มิโมซ่าพัทยา" เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วคาดว่าน่าจะมีโรงภาพยนต์ สวนสนุกและโรงแรมแนวบูติคเพิ่มขึ้นมา ส่วนของที่ขายในมิโมซ่าส่วนใหญ่ดูๆแล้วก็เหมือนของทั่วๆไปซึ่งหาได้ตามตลาดธรรมดาๆ เช่นของแต่งบ้าน เสื้อผ้าแฟชั่น ขนมของกินและของฝาก ทั้งหมดยังไม่มีอะไรที่เป็นจุดขายเด่นๆ ส่วนของกินในศูนย์อาหารทั้งรสชาดและราคาพอรับได้ ขอขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านครับทีติดตามกันมาจนจบตอน รีวิวหน้าจะที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ไว้เจอกันทริปหน้า ขอบคุณและสวัสดีครับ
ขอคุณข้อมูลประกอบบางส่วนจาก
http://www.emagtravel.com